รองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ คาดการว่า การพิจารณาคดีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา จะใช้เวลาประมาณห้าปี

ในวันจันทร์ (29 มิ.ย.2558) นี้ ที่ห้องประชุมชัยจินดา ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่เป็นผลมาจากการค้นพบหลุมศพเหยื่อการค้ามนุษย์กว่าสามสิบหลุม ในพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดยในที่ประชุม มี พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รอง ผบช.ภ.9  พล.ต.ต.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9  พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 และ นายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผอ.สำนักภารกิจพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมประชุมด้วย จากนั้น ได้มีการสรุปภาพรวมในการสอบสวนดำเนินคดี การอายัดทรัพย์สิน และความพยายามในการจับกุมผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี อีก 58 คน ให้ผู้สื่อมวลชนทราบ

ในที่ประชุมมีการสรุปว่า ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 119 คน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้แล้ว 56 คน และยังหลบหนีอีก 63 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งภาค 8 และภาค 9 ยังคงเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีทุกคน

นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานทุกคนเป็นอย่างดีจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนการสืบพยานล่วงหน้าในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนาทวี ได้สืบพยานเสร็จแล้วหนึ่งปาก จากพยานชุดแรกสี่ปาก โดยเปิดศาลเป็นกรณีพิเศษทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ในการนัดสืบพยานเพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากคดีนี้มีพยานกว่า 200 ปาก และอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี จึงจะสืบพยานในชั้นศาลเสร็จ ส่วนสำนวนคดี ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด และคาดว่าจะสั่งคดีส่งสำนวนกลับมาฟ้องศาลจังหวัดนาทวีได้อย่างช้าสุดภายในอาทิตย์หน้า

ส่วนความผิดฐานฟอกเงินนั้นล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหา รวมทั้งเครือข่ายค้ามนุษย์ทั้งใน จ.สงขลา จ.สตูล และ จ.ระนอง ที่ได้อายัดไว้แล้วมูลค่า 100 ล้านบาท ว่าเป็นทรัพย์สินที่มาจากการฟอกเงินหรือไม่ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีในหลายประเด็น รวมทั้งความคืบหน้าของการติดตามผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี อีก 63 คน ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ที่พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 และอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

“คดีค้ามนุษย์โรฮิงญาได้ออกหมายจับทั้งหมด 119 หมายจับ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 56 คน และอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 63 คน ไม่กังวลใจ กรณีที่ศาลจังหวัดพังงา พิพากษายกฟ้องจำเลยคดีค้ามนุษย์เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากคดีเป็นคนละส่วนกัน แต่ได้ให้พนักงานสอบสวนคัดสำเนาคำพิพากษาในคดีดังกล่าวมาเป็นแนวทางประกอบสำนวนคดี เพื่อป้องกันศาลยกฟ้องในคดีนี้ด้วย”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันหยุดที่ 27 - 28 มิ.ย. 2558 ศาลจังหวัดนาทวี ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 56 คน รวมทั้ง พล.ท. มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง จ.สตูล นายสุวรรณ แสงทอง หรือ โกหนุ่ย จ.ระนอง และ นายบรรจง ปองผล หรือ โกจง จ.สงขลา รวมทั้ง ผู้ต้องหาคนอื่นๆ ทั้งคนไทยและต่างชาติ จากเรือนจำอำเภอนาทวี มาที่ศาลจังหวัดนาทวี เพื่อรับฟังการสืบพยานล่วงหน้า  จากพยานชุดแรกทั้งหมด 4 ปาก โดยมีทนายความของฝ่ายของผู้ต้องหาทั้ง 56 คน สำหรับการสืบพยานนัดต่อไปจะมีการสืบพยานล่วงหน้าในวันเสาร์ที่ 11 และ วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งยังเหลือพยานที่จะต้องสืบพยานล่วงหน้าอีกกว่า 200 ปาก โดยคดีนี้คาดว่าอาจต้องใช้เวลาในการสืบพยานชั้นศาล นานอย่างน้อย 5 ปี

และล่าสุด พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก  เริ่มรับกับสภาพและปรับตัวในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำอำเภอนาทวีได้แล้ว