เจ้าหน้าที่วางมาตรการคุ้มครองครู-นักเรียน รับเปิดเทอมใหม่

ในวันพฤหัสบดี (12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559) นี้ เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงและส่วนที่เกี่ยวข้อง ในปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ร่วมประชุมกับบุคลากรทางการศึกษา เพื่อวางแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ก่อนเปิดเรียนในวันจันทร์ ที่ 16 พ.ค.นี้

ในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอรามัน พร้อมด้วย พ.ท.เตชทัต ธนะเดชจันสกุล เสนาธิการ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอารี ดิเรกกิจ ผอ.ส่วนอำนวยการ สำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ศอ.บต. ครูและบุคลากรทางการศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกองกำลังภาคประชาชน กว่า 500 คน ร่วมประชุมมาตรการรักษาความปลอดภัยครูและบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่ อ.รามัน ก่อนที่จะร่วมลงนาม MOU มาตรการรักษาความปลอดภัยครู เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันก่อนเปิดเทอมนี้

พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอรามัน กล่าวว่า หน่วยความมั่นคงได้แบ่งหน่วยกำลัง ทั้ง ทหาร ตำรวจ สมาชิกอาสาสมัคร กำนัน ผู้ใหญ่ ชรบ. จะมีการแบ่งกันทำหน้าที่อย่างเป็นระบบ

“จะมีการรักษาความปลอดภัย สองส่วน 1.ในช่วงเช้า จะมีทหารตำรวจ ไปรับครูจากที่บ้านของครู จะทำการติตตามครู รักษาความปลอดภัยครูอย่างเต็มกำลัง จนถึงที่โรงเรียน ระหว่างที่ครูทำการเรียนการสอนอยู่ จะมีการดูแลพื้นที่รอบนอก มีการดูแลพื้นที่รอบนอก ไม่ให้ผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาทำร้ายครู ขณะที่กำลังสอน 2.หลังจากมีการเลิกเรียน จะมีทหารตำรวจ ไปส่งครูถึงบ้านอย่างปลอดภัย 3.ในช่วงกลางคืน กำนัน ผู้ใหญ่ ชรบ.จะทำการเฝ้าระวังเวรยาม ไม่ให้ผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาทำลาย หรือเผาโรงเรียน” พ.จ.ท.อนันต์ กล่าวแก่ที่ประชุม

นางรอยทรง การีอูมา ผอ.โรงเรียนบ้านกอตอตือร๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา กล่าวว่า "มั่นใจในความปลอดภัยที่วางไว้ร่วมกัน แต่ยังมีความกังวลอยู่เหมือนกัน เรื่องของเหตุการณ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เสมอโดยที่เราไม่รู้ตัว”

“อยากให้มีการตระหนักด้านความดูแลความปลอดภัยแบบนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนกำลังใจ รู้สึกดี เพราะทางหน่วยงานความมั่นคงได้เปิดรับฟังปัญหาของครูและความต้องการของครู หลายๆ อย่างที่ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ มีการเพิ่มกล้อง CCTV ภายในโรงเรียนและบริเวณรอบๆ โรงเรียน จะช่วยให้ครูได้รับรู้ความเคลื่อนไหวภายในโรงเรียน ทั้งช่วงปิดเทอมและเปิดเทอม สามารถดูผ่านทางสมาร์ทโฟนได้" นางรอยทรง กล่าวเพิ่มเติม

ครูเสียชีวิตแล้วกว่าร้อยราย ในห้วงเวลาสิบสองปี

นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า จำนวนครูที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ทั้งหมด 183 ราย ช่วงปีหลังเกิดเหตุกับครูและบุคคลากรทางการศึกษาน้อยลง

ส่วนข้อมูลจากศูนย์รายงานเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับบาดเจ็บ 147 ราย เสียชีวิต 140 ราย

ในสามจังหวัดชายแดนใต้ มีโรงเรียนที่เป็นของรัฐ ทั้งหมด 1,160 โรงเรียน แยกเป็นโรงเรียน ในจังหวัดยะลา 311 โรงเรียน จังหวัดนราธิวาส 500 โรงเรียน และจังหวัดปัตตานี 349 โรงเรียน

สถิติที่เก็บรวบรวมโดยกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง พบว่า การก่อเหตุวางเพลิงเผาโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ตั้งแต่ปี 2547 ถึง ก.ค. 2558 ทั้งหมด 325 โรงเรียน เป็นคดีความมั่นคง จำนวน 314 โรงเรียน แยกเป็นจังหวัด จังหวัดยะลา 81 โรงเรียน ปัตตานี 133 โรงเรียน นราธิวาส 83 โรงเรียน และสงขลา 17 โรงเรียน ที่เหลือเป็นคดีอาชญากรรมทั่วไปจำนวน 11 โรงเรียน

เกิดเหตุสังหารรายวัน ดับ 4

เมื่อเวลา 10.20 น. คนร้ายลอบยิงราษฎร ระหว่างเดินทางไปทำงาน บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านบือแนละที ต.ปุลากง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีผู้เสียชีวิตสองราย คือ นายสาธิต ขวัญสนิท อายุ 21 ปี และ นายอัตณพร พรมมา อายุ 18 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวป 110 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กจ 2217 ปัตตานี ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไปด้วย 

เมื่อเวลา 01.00 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ขณะทำการรักษาความปลอดภัย บริเวณบ้านครองหิน ม.2 ต.ปากล่อ ต.นาประดู่ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้นายมูฮามะ สาแม อายุ 41 ปี โดนกระสุนที่ศีรษะ และเอวด้านขวา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

และรายที่สี่ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.20 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงพ่อค้าขายของตามตลาดนัด ขณะขับรถยนต์ในพื้นที่บ้านบองอ ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายฮารงค์ เจะหะ อายุ 51 ปี ซึ่งเสียชีวิต ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลระแงะ ส่วนประเด็นและสาเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน