เจ้าหน้าที่สังหารกลุ่มแบ่งแยกดินแดน 4 ราย บนเทือกเขา นราธิวาส
2016.06.01
นราธิวาส

ในวันพุธ (1 มิถุนายน 2559) นี้ ทหารในสามจังหวัดชายแดนใต้ ปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบบนเทือกเขาในพื้นที่บ้านไอกรอส ในจังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 4 ราย ส่วนทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย
พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้สนธิกำลังกับกำลังพลของกรมทหารพรานที่ 46 และกรมทหารพรานที่ 45 ประมาณ 50 นาย บุกขึ้นเทือกเขาในพื้นที่บ้านไอกรอส ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ในตอนก่อนรุ่งเช้าของวันนี้ เพื่อไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ และได้เกิดการปะทะกัน ในเวลาต่อมาสองระลอก
เจ้าหน้าที่ได้ทำการวิสามัญคนร้าย เสียชีวิตรวม 4 ราย ทราบชื่อคือ นายลุกมัน ลาเต๊ะบือริง และนายบือราเฮง อาแวมะ ส่วนอีก 2 ราย ยังรอการพิสูจน์ และ มีฝ่ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหนึ่งนาย คือ อาสาสมัครทหารพรานอนุศักดิ์ อ่ำรอด สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4603
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดปืนสงครามได้ 4 กระบอก พร้อมที่พักบนเขา 18 หลัง หลังจากการปะทะสองระลอกแล้ว เจ้าหน้าที่ยังคงนำกำลังติดตามไล่ล่าคนร้ายที่เหลืออย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับบาดเจ็บ 3-4 ราย และยังคงหลบซ่อนตัวในพื้นที่
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นายลุกมัน อยู่บ้านเลขที่ 253/6 หมู่ที่ 8 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส มีหมายจับสองหมายของศาลจังหวัดนราธิวาส หมายเลขที่ จ.208-/2559 คดีบุกโจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยกรมทหารพรานที่ 4816 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 โดยยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นฐานยิง และ หมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 353-/2558 ลง 22 ก.ค. 2558 กรณียิงอาสาสมัครทหารพราน ชัยสิทธิ์ มาลัย เจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 48 เหตุเกิดบนถนนบ้านป่าไผ่-เจาะไอร้อง หมู่ที่ 7 ตำบลจวบ เมื่อ 19 กรกฎาคม 2558
ส่วน นายบือราเฮง มีภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 2 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส มีหมายจับที่ 273-/2559 ลง 29 พฤษภาคม 2559 ศาลจังหวัดนราธิวาส คดีบุกโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยกรมทหารพรานที่ 4816 โดยยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นฐานยิง
หลังเกิดเหตุ พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กองกำลังร่วมสามฝ่าย ได้เข้าพิสูจน์ บนเทือกเขาในพื้นที่บ้านไอกิส ก่อนเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ส่วนหนึ่งอาจจมีส่วนในการบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อกลางเดือนมีนาคมด้วย
“ปฏิบัติการดังกล่าว เกิดขึ้นจากการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เหตุบุกยึด รพ.เจาะไอร้อง มาตรการด้านการข่าว และข้อมูลจากประชาชน จึงทำให้สามารถประมวลสถานการณ์ก่อนเข้าบุกยึดฐานที่มั่นของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการบุกยึด โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2559” พ.อ.ยุทธนาม กล่าว
“เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ช่วงเดือนรอมฎอนในระดับสูงสุด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกกับประชาชนประกอบศาสนกิจอย่างเต็มที่” พ.อ.ยุทธนาม กล่าวเพิ่มเติม
ในกรุงเทพ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอนว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงได้จัดมาตรการดูความปลอดภัยตามปกติ ทั้งนี้ ความปลอดภัยไม่ได้เกิดจากมาตรการของเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ต้องเกิดจากทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง และดำเนินการทุกอย่างภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ใช้อาวุธ หรือความรุนแรง
“รัฐบาลมีความบริสุทธิ์ใจที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ด้วยการเดินหน้าเจรจาสันติสุข ซึ่งการพูดคุยก็ต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แต่จะสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจด้วย” กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วยประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน เป็นชนเชื้อสายมลายู ที่นับถือศาสนาอิสลาม ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเหตุการณ์ที่กลุ่มก่อความไม่สงบปล้นปืนค่ายปิเหล็ง ในอำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส เมื่อปี 2547 เป็นต้นมา มีพี่น้องไทยมุสลิมและไทยพุทธ ผู้ถูกคร่าชีวิตไปกว่า 6,500 ราย บาดเจ็บประมาณ 12,000 ราย