ญาติร้อง กสม. กรณีทหารคุมตัวผู้ต้องสงสัยในเหตุยิงทหารพราน

มารียัม อัฮหมัด
2018.09.17
ปัตตานี
180917-TH-suspects-family-1000.jpg ครอบครัวผู้ต้องสงสัยในคดียิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4303 เข้าร้องทุกข์ต่อคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน วันที่ 17 กันยายน 2561
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ สมาชิก 5 ครอบครัวของผู้ต้องสงสัย ในคดีซุ่มยิงทหารพราน 4303 เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่อำเภอหนองจิก ปัตตานี เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ ศูนย์ประสานงานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในจังหวัดปัตตานี กรณีที่เจ้าหน้าที่กองกำลังร่วมกว่าพันนาย เข้าปิดล้อมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 8 ราย ในสองพื้นที่ของ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

นางเสาะ (นามสมมุติ) ภรรยาของหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งถูกควบคุมตัวจากกรณีดังกล่าว เปิดเผยว่า ต้องการให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ตรวจสอบการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อว่าสามีของตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และเจ้าหน้าที่มีกระบวนการคุมตัวที่ไม่ถูกต้อง

“ที่มาร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิฯ วันนี้ เพราะสามีถูกเจ้าหน้าที่จับตัวโดยไม่ทราบข้อกล่าวหา และเกรงว่าสามีจะถูกเจ้าหน้าที่กระทำอะไรบางอย่างให้รับสารภาพ ไม่เชื่อว่าสามีจะเป็นคนก่อเหตุ ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมา ชาวบ้านรู้สึกหวาดระแวงมาก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวใครไปอีก ทุกวันนี้ ในพื้นที่ตกเย็นๆ หน่อย ไม่มีใครกล้าที่จะเดินทางออกไปไหนแล้ว” นางเสาะกล่าว

“การที่เจ้าหน้าที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกในหมู่บ้าน เหมือนเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ได้ละเมิดสิทธิชาวบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่เห็นด้วย อีกเรื่องหนึ่ง ที่มีการบอกว่าจะเอาผิดพ่อแม่หรือภรรยาที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย ถือว่าเป็นปัญหามาก และคิดว่าไม่ถูกต้องเลยที่ทำแบบนั้น ทุกวันนี้ ชาวบ้านโดยเฉพาะวัยรุ่น เยอะมากไปอยู่ที่มาเลเซีย เพราะไม่อยากเจอปัญหาตกเป็นผู้ต้องสงสัย บางคนไปทำงานไม่ได้กลับมาเลย ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่มาตามหา หลายคนกลับมาก็ถูกจับ ทั้งที่ตอนเกิดเหตุเขาอยู่มาเลเซีย” นางเสาะ กล่าวเพิ่มเติม

การยื่นเรื่องร้องเรียนให้ กสม. ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองกำลังร่วม ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมอาวุธครบมือ กว่าพันนาย ได้กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้น และไล่ล่าคนร้ายในพื้นที่บ้านบางเขา ต.ท่ากำชำ และบ้านบางทัน ต.บางเขา ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แล้วควบคุมตัวประชาชนซึ่งต้องสงสัย 9 ราย ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน กองร้อยทหารพรานที่ 4303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ในพื้นที่ บ้านบางทัน ต.บางเขา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย

โดยชาวบ้านเปิดเผยรายชื่อ 8 คน ผู้ที่ถูกควบคุมตัวต่อสื่อมวลชน ดังนี้ 1. นายฟาริด เจะแต  2. นายอิบรอเฮม ยูโซะ  3. นายอับดุลฮาเล็ม สาเมาะ 4. นายฮัสมิง ลาเตะ  5. นายมะฮัมดี บากา  6. นายมามะ สะมะแอ  7. นายดอแม เจะดาโอ๊ะ และ 8. นายดอแม เจะดาโอะ ขณะที่ นายฮาบีดี สุหลง เบื้องต้น ถูกควบคุมตัว แต่ภายหลังได้รับการปล่อยตัว

อย่างไรก็ตาม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ที่มณฑลทหารบกที่ 46 อ.หนองจิก จ.ปัตตานีว่า มีผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัว 8 ราย ยืนยันว่าเป็นการคุมตัวที่ถูกต้อง โดยจะใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ควบคุมพื้นที่ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำชำ เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป เพื่อไล่ล่าหาตัวคนร้ายที่กระทำผิดต่อเนื่อง

“ขอยืนยันว่า ทั้งหมด 8 คน ถูกจับกุมถูกตัวแน่นอน ต.บางเขา ต.ท่ากำชำ เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพราะยังคงมีเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายยังคงปฏิบัติภารกิจเชิงรุก ในการกดดัน ปิดช่องว่างไม่ให้มีโอกาสเคลื่อนไหว หากพบก็จะดำเนินตามยุทธวิธีทันที จึงต้องขออภัยต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจจะไม่ได้รับความสะดวกจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว

“จากเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคนทุกเชื้อชาติเหมือนกันหมด ขอให้ผู้ก่อการคิดใหม่ หันเข้ามาให้ความร่วมมือกับรัฐดีกว่าให้มาเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กว่าพันนาย กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้น และไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มก่อความไม่สงบ และคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุที่ยังคงหลบซ่อนตัวและเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่

“หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือ นายฟาริด เบื้องต้นเขาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนดูต้นทาง และชี้เป้า ก่อนจะขยายผลสาวไปถึงผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน” พล.ต.จตุพร กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง