เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเหตุป่วนใต้วันครบรอบการสถาปนาบีอาร์เอ็น 22 ราย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.04.01
ปัตตานี
TH-violence-1000 เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวนายมะซอปี เจ๊ะนะ ที่บ้านในจังหวัดนราธิวาส หลังถูกซัดทอด มีส่วนร่วมบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ภาพเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2559
นาซือเราะ/เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์ (1 เม.ย. 2559) นี้ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า เจ้าหน้าที่ได้แถลงความคืบหน้าการหาตัวสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ก่อเหตุรุนแรงในวันครบรอบ 56 ปี ของขบวนการบีอาร์เอ็น เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา มาดำเนินคดีว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้เพื่อการสอบสวน 22 ราย ออกหมายจับแล้ว 2 ราย และกำลังจะออกหมายจับอีก 26 หมาย

ทั้งนี้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้ก่อเหตุยิงและวางระเบิดในพื้นที่หลายแห่งของจังหวัดยะลา และนราธิวาส โดยมีเหตุการณ์สำคัญๆ สามเหตุการณ์ คือ การบุกเข้าไปใช้โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เพื่อใช้เป็นฐานยิงโจมตีฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4816 ที่อยู่ติดกัน การลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่บริเวณสะพานบ้านยานิง ใกล้โรงพยาบาลสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เพื่อสกัดกั้นการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ยึดโรงพยาบาล และการโจมตีชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟเจาะไอร้อง

พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า มีผู้ก่อเหตุในการบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง 52 คน ตามภาพในทีวีวงจรปิด และ ในขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 22 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจลายพิมพ์นิ้ว ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้วสองราย และเตรียมออกหมายจับอีก 26 ราย

“จากการซักถามผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก 22 คน ได้ให้การยอมรับแล้วว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ จำนวน 7 คน” พล.ต.ต.พัฒนวุธ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าว

พล.ต.ต.พัฒนวุธ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับตาม ป.วิอาญา แต่ยังหลบหนีอยู่ คือ นายอับดุลการี หะแว ตามหมายจับที่ 161/2559 ลงวันที่ 20 มี.ค. 2559 อีกหนึ่งคนเป็นชาย ยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี ปรากฏตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ถืออาวุธปืนอาก้า ตามหมายจับที่ 174/2559 ลงวันที่ 26 มี.ค.2559 และยังกล่าวอีกว่า ได้มีการสอบสวนพยานบุคคลไปแล้ว 180 ปาก

“คดีมีความคืบหน้ามาก จากพยานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 นำปลอกกระสุนปืนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ 1,825 ปลอก พบคนร้ายที่ก่อเหตุ มีจำนวน 52 คน ปืน 52 กระบอก ตรวจพบประวัติปืน 18 กระบอก ใช้ก่อเหตุมาแล้ว 46 คดี ในพื้นที่อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอจะแนะ  อำเภอระแงะ และ อำเภอเจาะไอร้อง”

ในเหตุการณ์ยิงโจมตีชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย สถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 นั้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 8 ราย เตรียมหาตัวอีก 3 ราย ส่วนเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่บริเวณสะพานบ้านยานิง ในขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ในเหตุโจมตีชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 มีผู้ต้องสงสัย 8 คน ในจำนวนนี้ มี 6 คน รับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุ โดยแบ่งตามหน้าที่และการปฏิบัติ ด้านประสานงานและควบคุมการปฏิบัติ 1 คน ขับรถจักรยานยนต์ 1 คน มือปืน 1 คน และดูต้นทาง 3 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาแก่บุคคลทั้งหกคนแล้วหรือไม่

พันเอกยุทธนาม ยังกล่าวว่า “ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ไม่กระทบต่อแผนการสร้างสันติภาพที่เดินหน้าการเจรจาอยู่แน่นอน ขณะที่ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังดีเยี่ยมทุกนาย พร้อมดูแลความสงบต่อไป”

การบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ผู้ก่อเหตุ ได้จับเจ้าหน้าที่พยาบาลจับมัดมือไพล่หลัง ยิงใส่ฐานทหารพราน และทำลายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลอีกด้วย ในเหตุการณ์นี้ มีเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4816 ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย

นางอรวรรณ นามขัน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งกำลังท้องหกเดือน กล่าวว่าแก่เบนาร์นิวส์ ในก่อนหน้านี้ ว่า ตนได้ถูกคนร้ายที่หนีเข้าไปในโรงพยาบาลมัดมือไขว้หลัง แต่โชคดีที่ตนเองไม่ได้โวยวาย จึงรอดตัวมาได้

"คนร้ายเข้ามาในโรงพยาบาลสิบคน เขาได้เข้ามาหาแล้วบอกให้อยู่นิ่ง พร้อมกับมัดมือไขว้หลัง แล้วให้นั่งบนเก้าอี้ที่เดิม ถือว่าโชคดีที่มีสติดี ไม่ได้โวยวาย ถ้าโวยวายก็ไม่รู้จะโดนยังไง ตอนนั้น คิดว่าต้องตายแน่นอน” นางอรวรรณ กล่าว

“เขาใช้อาวุธสงครามที่ถือเข้ามา กราดยิงออกไปข้างนอก หันไปทางฐานทหารพราน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับรั้วโรงพยาบาล เขายิงประมาณ 20 นาที เขาก็ล่าถอยไป เคยคิดว่าในโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุด แต่ตอนนี้ ไม่แน่ใจแล้ว" นางอรวรรณ กล่าวเพิ่มเติม

หลังเกิดเหตุการณ์ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ (UN Human Rights Office for South-East Asia) และองค์กรฮิวแมนไรท์สวอทช์ (Human Rights Watch) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิกองโจรแบ่งแยกดินแดนที่ได้บุกเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง