ผู้ก่อความไม่สงบโหมก่อเหตุรุนแรง ช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนในชายแดนใต้

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.06.27
นราธิวาส
TH-violence-620 พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาค 4 (ขวาสุด) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในสุไหงโกลก วันที่ 27 มิ.ย. 2559
เบนาร์นิวส์

ผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โหมโจมตีเป้าหมายอ่อนแอด้วยการวางระเบิด และยิงผู้บริสุทธิ์ ในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรักษาศีลอด นับตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย บาดเจ็บแปดราย ในเหตุระเบิดรวม 5 เหตุการณ์ และเหตุลอบยิงเสียชีวิต 1 เหตุการณ์

เริ่มจากในตอนเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. นี้ ผู้ก่อการร้ายในจังหวัดนราธิวาส ขับรถยนต์ที่ดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์ไปจอดบนถนนข้างโรงเรียนบ้านสุไหงโกลกกับฐานปฏิบัติการระดับหมวดของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จ. นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้ไดัรับบาดเจ็บรวม 6 ราย ทราบชื่อ คือ ส.ต.ท.ชัยณรงค์ สายชนะ ส.ต.ต.ฮัสลัน อุเซ็ง นายสุไลมาน บูละ นายชัยวิทย์ อารีกูลชัย น.ส.มูลียานี เจ๊ะดอเล๊าะ และ นายวิชัย ศรีกาญจนา ทั้งหมดอาการเล็กน้อย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

และยังมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นทรัพย์สินอีก 42 ราย ซึ่งเป็นร้านค้า แผงลอย ที่อยู่อาศัย โรงแรม รถขายของ และรถจักรยานยนต์

ในวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. 2559 นี้ พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในที่เกิดเหตุ และได้กล่าวว่า ในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน มักจะมีการเร่งโจมตี จึงเตือนให้ทุกหน่วยระมัดระวัง

“ในช่วง 10 วัน ที่จะถึงช่วงเทศกาลรายอของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในทุกปีคนร้ายจะฉวยโอกาสก่อเหตุหนักหน่วงยิ่งขึ้น” พล.ต.ชินวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในพื้นที่

นับตั้งแต่พี่น้องชาวมุสลิมเริ่มถือศีลอดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นี้ ได้มีเหตุรุนแรง สังหารเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างน้อย 6 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 36 ราย

ซึ่งก่อนหน้าเดือนรอมฎอน นับตั้งแต่การทลายแหล่งทำระเบิดของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมือผลิตระเบิดได้หนึ่งราย ได้เกิดเหตุรุนแรงเพิ่มขี้น จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย

หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าทั่วเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก และตามจุดตรวจต่างๆ ที่มุ่งหน้าสู่เขตเทศบาล พบว่าคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจาก อ.สุไหงปาดี และได้เลี้ยวขวาที่แยกบุญยลาภ ขับมาจอดที่บริเวณแผงจำหน่ายสินค้าข้างกำแพงของหมวด นปพ.เฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33

พ.ต.อ.กองอรรถ ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนในทางลับพบว่า คนร้ายเคยใช้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวในการก่อเหตุลอบวางระเบิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 58  หลังจากนั้น นายฮาซือมิง ปูตะ สมาชิกแนวร่วมกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบ ที่หลบหนีหมายจับ ป.วิอาญา ได้นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวซึ่งสีเดิมเป็นสีขาวเปลี่ยนมาพ่นเป็นสีบรอนส์

“นายฮาซือมิง เปลี่ยนสีรถยนต์แล้วให้นายซูกีมัน กูบารู ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ อำเภอสุไหงปาดี ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจอดก่อเหตุ” พ.ต.อ.กองอรรถ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

พ.ต.อ.กองอรรถ คาดว่าคนร้ายได้หลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซียแล้ว แต่จะออกหมายจับนายซูกีมัน และขอความร่วมมือให้ทางตำรวจมาเลเซียติดตามจับกุม

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับ ควบคู่กับเตรียมใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อขอตัวนายซูกีมัน กูบารู ที่หลบหนีไปกบดานมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.กองอรรถ กล่าว

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ติดตามคนร้ายที่ขี่จักรยานยนต์มารับคนนำรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์มาจอดอีกด้วย

สำหรับรถยนต์ที่คนร้ายใช้ เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทตัน นำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 80 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารมาก่อเหตุ มีรัศมีการทำลายราวหนึ่งร้อยเมตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโกลก เผยแพร่ภาพคนร้ายหลบหนี หลังจากนำรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดที่ข้างโรงเรียนบ้านสุไหงโกลกและฐานปฏิบัติการหมวด นปพ. เฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2559 (ภาพจากกล้องวงจรปิด สภ.สุไหงโกลก)

ในตอนเที่ยงของวันอาทิตย์ ยังได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายขว้างระเบิดมือใส่ป้อมบริการประชาชน สถานีตำรวจบันนังสตา ริมถนนสาย 410 หมู่ที่ 2 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้ด้านหน้าป้อมได้รับความเสียหายเล็กน้อย

ในตอนค่ำ คนร้ายสองคน ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกประกบยิง นายอับดุลเลาะ โด อายุ 56 ปี เป็นอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกุหมัง หมู่ที่ 4 ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในขณะขับรถจักรยานยนต์ เสียชีวิตริมถนนในหมู่บ้านบริเวณหน้ามัสยิด

นอกจากนั้น คนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิด ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 2 จุด และเผารถบรรทุกน้ำและรถบดถนน ของบริษัทเธียรปรีชา เอกชนรับเหมาก่อสร้างทำถนนสาย 410 บริเวณปอเนาะบาโงตา หมู่ที่ 2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้รถบรรทุกน้ำและรถบดถนน ได้รับความเสียหาย

และจุดสุดท้าย คนร้ายลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจยะรัง ในขณะนำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายเผารถบรรทุกน้ำระหว่างทาง บริเวณเพิงขายของ ริมถนนสาย 410 บ้านบาซาเวาะเซ็ง หมู่ที่  2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ต.วงวิวัฒน์ เขียดสุข ถูกสะเก็ดระเบิดอาการเล็กน้อยถูกนำส่งโรงพยาบาลยะรัง จ.ปัตตานี รถยนต์ตราโล่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 คัน

ส่วนในวันจันทร์ (27 มิ.ย. 2559) นี้ พ.ต.ต.พงศกร วรรณทอง สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจปะนาเระ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน 4215 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 42 ชุด รักษาความปลอดภัยครู  บริเวณ ม.1 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ คือ อส.ทพ.ธนากร สวนแดง ถูกนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ

พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า “ช่วงนี้กลุ่มคนร้ายมุ่งหวังสร้างสถานการณ์ความรุนแรงตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือน โดยเฉพาะในการลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่สุโหงโกลก พบความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายอย่างชัดเจน”

นานกว่าทศวรรษแล้ว ที่เหตุรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เกิดขึ้นมา โดยตลอด ซึ่งส่วนใหญ่ตำรวจมักจะกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดิน แดน แต่กลุ่มกองกำลังต่างๆ ที่หลบซ่อนในที่มืด กลับไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือออกมาปฎิเสธ แต่อย่างใด

ผู้ที่คุ้นเคยกับสามจังหวัดชายแดนใต้กล่าวว่า ขบวนการอาชญากรรมในพื้นที่ก่อความวุ่นวาย ให้เกิดบรรยากาศน่ากลัว เพื่อจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ให้ไปกังวลเรื่องความมั่นคงและ อื่นๆ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ความรุนแรงโดยกลุ่มขบวนการ ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ปัจจุบันมีแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง