ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้แจ้งเตือนการก่อเหตุรุนแรงในวงกว้าง

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.09.26
นราธิวาส
TH-warning-800 กองกำลังเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ฝึกอบรมการใช้อาวุธให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่สนามยิงปืนบ้านบูเกะบากง จังหวัดนราธิวาส วันที่ 26 ก.ย. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์ (26 กันยายน 2559) นี้ หน่วยข่าวข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวัง หลังจากพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ เตรียมก่อเหตุรุนแรงครั้งใหม่

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงผู้ไม่ประสงค์จะออกนามรายหนึ่งกล่าวแก่ผู้สื่อข่าว ในวันนี้ว่า ทางการได้ออกหนังสือแจ้งเตือนให้กับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ได้เตรียมก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ต่อเป้าหมายย่านชุมชนไทยพุทธ พื้นที่ตลาดนัด และเจ้าหน้าที่รัฐ

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังเตรียมก่อเหตุลอบวางระเบิดโดยการประกอบในกรวยยาง เพื่อลวงเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ที่รับผิดชอบอีกด้วย

ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวเสริมว่า ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าไปหาข่าวในพื้นที่สีแดงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนร้ายต้องการตอบโต้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่ได้อาวุธปืนหลายกระบอก ในห้วงที่ผ่านมา

"กลุ่มที่ก่อเหตุในพื้นที่สีแดง อำเภอยะหา อำเภอกรงปินัง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา คือ กลุ่มนายฮูไบดีละห์ รอมือลี ซึ่งมีหมายจับในคดีความมั่นคง 18 หมายจับ ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ตั้งรางวัลนำจับสองแสนบาท เพราะเชื่อว่ายังเคลื่อนไหว และหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่" พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รายงานว่า ในปี 2559 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยแล้วกว่า 7,000 ครั้ง

ตามรายงานข่าวกรอง คาดกันว่ากลุ่มคนร้ายจะนำรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ประกอบระเบิด เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ยะลาหรืออื่นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1. รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน 2. รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง 3. รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์ 4. รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4 ประตู สีขาว 5. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮา รุ่นฟีโน สีดำ-เทา 6. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำ-แดง และ 7. รถยนต์โปรตอน สีฟ้า ไม่ทราบหมวดอักษร และเลขทะเบียน รถยนต์ทั้งหมดมีการแจ้งหายจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร.152 พัน 3 ค่ายสิรินธร ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่เพิ่มเติมในตัวเมืองจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นถนนเส้นทางสายหลักก่อนเข้าสู่ย่านชุมชนเขตเมืองยะลา

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงรายเดียวกัน กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีนั้น ทางการยังพบการเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ บ้านกอตอรานอ ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง บ้านคูระ ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน บ้ายเปี๊ยะ ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก ซึ่งแกนนำในพื้นที่แต่ละพื้นที่ได้สั่งการให้เตรียมก่อเหตุระเบิดและซุ่มโจมตีเป้าหมายโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาด้วยโทรศัพท์ และให้ก่อเหตุซุ่มยิง ประกบยิงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ ชาวไทยพุทธ และเป้าหมายอ่อนแอ หรือกราดยิงราษฎร ขณะเล่นบอล

"แกนนำผู้ก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังได้สั่งแนวร่วมให้เตรียมระเบิดจำนวนมาก โดยใช้รหัสในการสั่งการว่า มะพร้าว 38 ลูก พิเศษ 30 ธรรมดา 8 เพื่อก่อเหตุร้ายในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ" เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงรายเดียวกันกล่าว

นับตั้งแต่เกิดความรุนแรงระลอกใหม่เมื่อต้อนปี พ.ศ. 2547 ได้มีผู้เสียชีวิตในสามจังหวัดชายแดนใต้กว่า 6,500 ราย และล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรงปินัง จังหวัดยะลา มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตสามราย และบาดเจ็บสองราย

เมื่อต้นเดือนนี้ คณะพูดคุยสันติสุขของไทย และองค์กรมาราปาตานี ซึ่งเป็นองค์กรร่มในการเจรจาของฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ ได้ตกลงร่วมกันที่จะพิจารณาการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย หรือ “เขตหยุดยิง” ในบางพื้นที่ รวมทั้งจะพิจารณาข้อเสนอของเครือข่ายผู้หญิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในการพูดคุยในครั้งต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน ยังคงมีเหตุการณ์รุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง