มหาดไทยแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้หญิงมุสลิมะห์คนแรกของประเทศ

ในวันศุกร์ (7 ต.ค. 2559) นี้ ประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากได้เดินทางจากจังหวัดปัตตานี ไปพบนางพาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงคนใหม่ ที่เป็นผู้หญิงมุสลิมที่มีพื้นเพเดิมในสามจังหวัดชายแดนใต้คนแรก ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงถึงระดับนี้

ทั้งนี้ นางพาตีเมาะ จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ในวันจันทร์นี้ หลังจากที่นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรางมหาดไทย ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการในตำแหน่งใหม่ ที่ 1103/2559 เมื่อวันอังคารนี้ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือ นางพาตีเมาะ สะดียามู เดิมมีตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดพัทลุง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความพอใจและยินดี ที่ กระทรวงมหาดไทย มีความไว้วางใจให้ผู้หญิงมุสลิมสามารถขึ้นมาทำหน้าที่พัฒนาพื้นที่

"อัลฮัมดุลละห์ ต้องขอขอบคุณอย่างมาก ที่ช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงาน และการเรียนรู้ร่วมกัน รวมทั้งให้กำลังใจ แรงเชียร์ โดยเฉพาะโอกาสของการได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ทำให้เราได้มีโอกาสในวันนี้ ขอขอบคุณอีกครั้ง ฝากข้อคิดไว้ในใจ ทุกท่านขออย่าได้เกรงใจที่จะใช้ตนเองเป็นประโยชน์ จากโอกาสการได้เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้ง ข้อเสนอแนะพร้อมน้อมรับเพื่อนำมาแก้ปัญหาและพัฒนาพื้นที่" นางพาตีเมาะ กล่าวแก่ผู้เข้าเยี่ยม

นางฮาซีหมะฮ์ ตอแล ชาวจังหวัดยะลา ที่เดินทางไปด้วยกล่าวว่า "เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมมากและพอใจ ถูกใจคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกกลุ่ม เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่มีการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการแล้วโดนใจคนทุกกลุ่มเช่นนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ขอขอบคุณมหาดไทยกับการมอบตำแหน่งรองผู้ว่าหญิงมุสลิมคนแรกของไทยอย่างภาคภูมิใจ และถือเป็นการให้เกียรติพี่น้องมุสลิม"

นางพาตีเมาะ สะดียามู เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2508 อายุ 51 ปี บรรจุรับราชการ วันที่ 8 มีนาคม 2536 อายุราชการ 23 ปี พื้นเพบ้านเดิมอยู่ที่บ้านปีซัด ม.1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา จบการศึกษาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาพัฒนาสังคม) สาขาวิชาเอก การจัดการการพัฒนาสังคม คณะพัฒนาสังคมและสิงแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (รปศ.) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ตําแหน่งล่าสุด คือ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดพัทลุง สังกัดสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ก่อนหน้านั้นเคยรับราชการในตำแหน่งต่างๆ ในจังหวัดปัตตานี และยะลา

นายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการ จังหวัดยะลา กล่าวว่า ในอดีตเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้ชื่อ-สกุลชาติพันธุ์มลายู มักจะไม่ได้รับความวางใจให้ดำรงตำแหน่งระดับนี้ จนหลายคนต้องเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลเป็นไทย

“ในอดีตข้าราชการไทยที่มีชื่อสกุลที่แสดงถึงอัตลักษณ์บ่งบอกถึงชาติพันธุ์ไปทางมลายูชัดเจนนั้น มักจะต้องเปลี่ยนชื่อสกุลกันมาก่อน ซึ่งมีด้วยกันหลายท่าน ตั้งแต่เป็นนายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัด” นายอุดรกล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

นายอุดรกล่าวว่า แต่สำหรับนางพาตีเมาะแล้ว เธอมีอาวุโสลำดับต้นๆ ที่จะได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เธอมีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญด้านแผนพัฒนาจังหวัด

“สิ่งที่ประทับใจในตัวเธอ คือการแต่งกายบ่งบอกถึงความเป็นมุสลิมมะห์ มาอย่างยาวนานตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย เธอสวมใส่ฮิญาบมาจนได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตำแหน่งที่สำคัญในการบริหารงานของจังหวัด” นายอุดรกล่าว

"ขอปรบมือดังๆ และยาวนานให้กับกระทรวงมหาดไทยที่ได้ให้ความไว้วางใจมุสลิมะห์ ที่ชื่อพาตีเมาะ สะดียามู ในครั้งนี้ มุสลิมหลายท่านในอดีตที่เปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุลที่มีชาติพันธุ์มลายูเป็นชื่อที่ตามสมัยกาลเวลา คงอยากจะกลับไปเปลี่ยนชื่อเดิมๆ ที่บรรพบุรุษตั้งมาตั้งแต่กำเนิด คงไม่สายนะ สามารถกระทำได้" นายอุดรกล่าวเพิ่มเติม