กลุ่มสตรีระแงะ นราธิวาส รวมตัวแสดงการต่อต้านความรุนแรง ก่อนวันสตรีสากล
2016.03.07
นราธิวาส

เมื่อวันอาทิตย์ (6 มีนาคม 2559) นี้ กลุ่มสตรีระแงะ ได้รวมตัวกันกว่า 500 คน เดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในเขตจังหวัดภาคใต้ และย้ำว่า ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และความรุนแรงยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดผู้หญิงม่าย และเด็กกำพร้าอีกด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มตัวแทนสตรีจาก 6 ตำบลในอำเภอระแงะ ได้ด้วยรวมตัวกันที่หน้าสถานีรถไฟตันหยงมัส และเดินรณรงค์เป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรไปยังที่ว่าการอำเภอระแงะ โดยระหว่างทางสมาชิกได้ถือป้ายซึ่งมีข้อความต่อต้านความรุนแรง และเรียกร้องสันติสุข รวมทั้งยังได้ทำการปล่อยลูกโป่งสีขาว ขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อความหมายว่า “ทุกคนต้องการความสงบและสันติภาพ” โดยการเดินรณรงค์ครั้งนี้ เป็นการแสดงพลังของสตรีก่อนที่จะถึงวันสตรีสากล 8 มีนาคมนี้
ในการรวมตัวครั้งนี้ นางรูบียา เจะหะ ผู้นำกลุ่มสตรี อำเภอระแงะ ได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่มต่อสาธาณชนโดยในตอนหนึ่งมีใจความว่า การใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเหตุวางระเบิด เหตุยิง จากเหตุความไม่สงบภาคใต้ช่วง 12 ปี ที่ผ่านมา สร้างความบอบช้ำต่อคนในพื้นที่เป็นวงกว้าง ทำให้มีคนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน กลุ่มสตรีจึงต้องการเรียกร้องให้หยุดการใช้ความรุนแรง
“ปัญหาความรุนแรง ทำให้ผู้หญิงเป็นม่าย และมีเด็กกำพร้าเกิดขึ้นมาก จึงนับได้ว่าการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรในพื้นที่ แต่เพิ่มปัญหากับสังคมมากมาย จึงขอเรียกร้องทุกฝ่าย ที่ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา ยุติความรุนแรง เลิกระเบิด เลิกยิงเสียเถิด และหันหน้าหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี เพราะทุกคนต้องการความสงบสุข” ส่วนหนึ่งของข้อความในแถลงการณ์กล่าว
ด้านนายวิชาญ ชัยเศรษฐกิจสัมพันธ์ นายอำเภอระแงะ กล่าวถึงการรวมตัวของกลุ่มสตรีว่า ในครั้งนี้เป็นความประสงค์ของกลุ่มสตรีที่จะแสดงออก ต่อต้านความรุนแรง โดยปรกติบทบาทสตรีจะทำหน้าเป็นแม่บ้านเป็นหลัก แต่ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นนับกว่า 10 ปี เด็ก สตรี ตายจำนวนมาก กลุ่มสตรีจึงอยากแสดงออก เพื่อเรียกร้อง หรือส่งสัญญาณถึงกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง ให้ยุติการกระทำดังกล่าว
“ทุกคนมองเป็นแนวทางเดียวกันว่า ความรุนแรงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น นอกจาก ทำลายให้พื้นที่แย่ลงทุกวัน และทำให้คนในพื้นที่สูญเสียโอกาสในทุกด้าน อันเกี่ยวเนื่องจากเป็นปัญหาความไม่มั่นคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรุนแรงนั่นเอง” นายวิชาญ กล่าว
ผู้หญิงเสียชีวิตกว่า 400 ราย จากความไม่สงบในภาคใต้ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ระหว่างปี 2547 – 2558 มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับเฉพาะเหตุระเบิดมีถึง 3,121 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตถึง 431 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1,651 ราย
เฉพาะปี 2557 (มกราคม-กรกฎาคม) มีผู้หญิงถูกสังหาร 32 คน บาดเจ็บกว่า 60 คน ในจำนวนเหยื่อเหล่านี้บางคน ยังเป็นนักศึกษา บางคนกำลังตั้งครรภ์ ส่งผลให้เหยื่อความรุนแรงผู้หญิงหลายคนกลายเป็นคนพิการ เหยื่อที่อายุน้อยที่สุดคือ 2 ขวบ และเหยื่อที่อายุมากที่สุดคือ 62 ปี ในนั้นเป็นชาวพุทธ 25 คน เป็นมุสลิม 7 คน
จากการที่สถานการณ์มีความรุนแรงลดลงในปี พ.ศ. 2558 แต่นับตั้งแต่หลังจากการจับกุมผู้ก่อการร้ายในแหล่งประกอบระเบิดในป่าโกงกาง ในอำเภอหนองจิก เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 3 มีนาคม นี้ เกิดเหตุระเบิดแล้ว 14 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 26 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุยิงกัน 15 ครั้ง บาดเเจ็บ 5 คน เสียชีวิต 12 คน และมีเหตุยิงแล้วเผา 3 ครั้ง เสียชีวิต 3 คน
ล่าสุดนายอาวัง ยะบะ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น และประธานกลุ่มมาราปาตานี ซึ่งเป็นองค์กรในการเจรจากับคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของไทย กล่าวในวีดีโอคลิปที่เปิดงานสัมมนาสันติภาพเดินหน้า ที่ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า ทางองค์กรฯ ยังไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องจากรัฐบาลไทยที่ขอให้มีการจัดตั้งเขตปลอดภัยนำร่อง ในอำเภอบาเจาะ และอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ตามที่ทางรัฐบาลไทยเสนอได้ แต่กลุ่มนักคิดขององค์กรมาราปาตานี จะพิจารณาการจัดตั้งเขตปลอดภัย