เลขาสภาความมั่นคง: นายกฯ แนะนำให้จัด“พื้นที่ปลอดภัย”ตามสถานที่เฉพาะก็ได้
2017.01.12
กรุงเทพฯ

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (11 มกราคม พ.ศ. 2560) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำแนะนำแก่คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในเรื่องการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยว่า อาจจะกำหนดพื้นที่ปลอดภัยเป็นสถานที่ควรละเว้น เช่น โรงเรียน แทนการกำหนดเป็นพื้นที่เป็นระดับตำบลหรืออำเภอก็ได้
“พื้นที่ปลอดภัยไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ทั้งตำบลหรืออำเภอ อาจเป็นเพียงบางสถานที่ก็ได้ เช่น พื้นที่โรงเรียนต้องปลอดภัย นักเรียนหรือครูเดินทางไปโรงเรียนต้องปลอดภัย ตรงนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่เซฟตี้โซนที่มีการพูดไว้ก่อนหน้านี้” พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว โดยอ้างถึงคำแนะนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายด้านความมั่นคง เมื่อวานนี้
พล.อ.ทวีป ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการพูดคุยครั้งต่อไป อยู่ระหว่างการรอกำหนดที่คณะเทคนิคจะประสานงานไปยังประเทศมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวก เพื่อนัดหมายกันอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้านนายกัสตูรี มาห์โกตา ประธานพูโลหรือองค์กรปลดปล่อยสหปาตานี หนึ่งในสมาชิกองค์กรมาราปาตานี ที่เป็นคู่เจรจากับรัฐบาล ได้กล่าวแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“ใช่ ผมเห็นด้วยว่า ระยะทางยังยาวไกลในการดำเนินการ ผมอยากให้เริ่มจากเป้าหมายอ่อนแอก่อน และผมยังมีความหวังอยู่” นายกัสตูรี กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางเมสเสจ
เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอกอักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน หลังจากการพบปะของคณะกรรมการทางเทคนิคของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 19-21 เดือนนี้ว่า สองฝ่ายได้จัดเตรียมร่างกรอบแนวความคิดและความร่วมมือในการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
ชาวบ้านไม่เห็นด้วย
ในเรื่องนี้ นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ และรองประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วย
“ไม่เห็นด้วยครับ มันไม่ครอบคลุม จะปกป้องโรงเรียนหรือครู ความเป็นไปได้มีมากน้อยเพียงใด แล้วบุคคลเป้าหมายอื่นล่ะ แล้วถ้ากองกำลังในพื้นที่ไม่ยอมเมื่อมีการปกป้องครู แล้วถ้าเขาไปทำประชาชนล่ะ” นายรักชาติ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ในวันนี้
“เรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่าฝ่ายพูดคุยจะว่ายังไง เมื่อเป็นแบบนี้ คิดว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องคุยกันอีกยาว ไม่จบ ตามความเข้าใจก่อนหน้านี้หลายฝ่ายมองว่า เป็นโซน ตำบล หรืออำเภอ ซึ่งตอนแรกคณะพูดคุยทั้งสองฝ่าย คุยกันได้ดี ทำความเข้าใจกันได้แล้ว รออยู่แค่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ในรูปแบบตำบลหรืออำเภอ” นายรักชาติ กล่าวเพิ่มเติม
“เมื่อเป็นแบบนี้ก็รู้สึกงง แล้วจะเดินต่อไปได้อย่างไรหรือสองฝ่ายจะต้องเริ่มคุยกันใหม่” นายรักชาติ กล่าวทิ้งท้าย
“เหมือนหลุดจากโพลเวทีของวาระผู้หญิงที่ทำก่อนหน้านี้ทุกข้อเลย ทั้งข้อหนึ่ง พื้นที่สันติ ข้อสอง พื้นที่ปลอดภัยแบบประชารัฐ และข้อสาม พื้นที่สาธารณะปลอดภัย จะเดินกันยังไงหละที่นี้” นายรักชาติ หยิบยกแนวทางการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยที่กลุ่มวาระผู้หญิงเสนอมาก่อนหน้านี้
ทางด้านนายอับดุลเลาะ เจะแม ชาวบ้านในจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “ส่วนตัวมองมาตลอดคำว่าพื้นที่ปลอดภัยเกิดได้ยาก เป็นปัญหาในพื้นที่ เพราะสงครามที่เกิดขึ้น เกิดจากหลายกลุ่ม กลุ่มนี้ไม่ทำ อีกกลุ่มทำ กลุ่มนี้ยอมรับ อีกกลุ่มไม่ยอมรับ ยากที่จะเกิดพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ปลอดภัยในรูปแบบของนายกรัฐมนตรีแล้วยิ่งยากเพราะกำลังแค่เป้าหมายเดียว ทั้งที่กลุ่มอ่อนแอในพื้นที่ มากกว่ากว่าครูและโรงเรียน”