ทหารกล่าวว่าความไว้วางใจสลายลงด้วยเหตุคาร์บอมบ์ในจังหวัดนราธิวาส

เหตุการณ์คาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ในจังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ประเทศไทยได้ทำลายความไว้วางใจระหว่างกันที่จำเป็นต่อการเริ่มพูดคุยสันติภาพ เหมือนการก่อปราสาททรายที่ทรุดตัว โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาคสี่กล่าว

“การสร้างความเชื่อมั่นเป็นมาตรการที่เราพยายามทำอยู่แล้ว แต่บางครั้งมันเหมือนก่อเจดีย์ทรายครับ เราทำขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง เวลาเขาสร้างเหตุรุนแรงด้วยการระเบิดนี่ ความเชื่อมั่นมันก็ลดลงไปเป็นธรรมดา” พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาคสี่ ส่วนหน้า ในจังหวัดปัตตานี กล่าวในการสัมภาษณ์ต่อเบนาร์นิวส์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

รัฐบาลชุดใหม่ของไทยที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ ได้มองหาโอกาสในการเปิดการเจรจากับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้เลือก พลเอกอักษรา เกิดผล เป็นหัวหน้าคณะเพื่อพูดคุยกับทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและผู้ที่มีส่วนได้เสียอื่นๆ

สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานว่า ภายใต้รัฐบาลพลเรือน ก่อนที่จะถูกรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา การเจรจาที่มีขึ้นสองรอบโดยมาเลเซียเป็นผู้ช่วยประสานให้ได้สะดุดลง  จังหวัดนราธิวาส เป็นหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนต้องการปลดปล่อย และนับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,300 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

ในความพยายามในการเปิดการเจรจารอบใหม่ รัฐบาลได้ใช้คำว่าการพูดคุย แทนคำว่าการเจรจา เพื่อทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายลง

พันเอกปราโมทย์ กล่าวว่า “การพูดคุยเพื่อสันติสุข มันไม่สามารถที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่เป็นเรื่องของการซื้อของ มันเป็นเรื่องของความเข้าใจกัน”

พันเอกปราโมทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินการในเรื่องนี้เป็นสามขั้นตอน คือ การสร้างความไว้วางใจ การลงสัตยาบรรณ และการทำโร้ดแมพสู่สันติภาพ