ชาวประมงพื้นบ้านหาดเทพาจับกุ้งเคยได้ถึงวันละ 50 กิโลกรัม

ชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยอยู่พื้นที่ตำบลปากบาง อำเภอเทพา และบริเวณใกล้เคียง ต่างดีใจที่สามารถจับกุ้งเคยหรือกุ้งฝอย ได้จำนวนมากกว่า 50 กิโลต่อวัน สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านราววันละหมื่นบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่

นางมารีแย สือเลาะ ชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยในบริเวณใกล้ชายหาดหมู่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า พื้นที่หาดเทพา โดยเฉพาะบริเวณปากบาง มีความอุดมสมบูรณ์คืนมามาก หลังจากการที่รัฐบาลได้มีมาตรการควบคุมการทำประมงโดยผิดกฎหมาย โดยมีกุ้งเคยหรือกุ้งกะปิอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาก ทั้งยังมีปลาวาฬสีชมพูปรากฏตัวให้เห็นด้วย ไม่เป็นดังที่ฝ่ายสนับสนุนการสร้างโรงงานไฟฟ้ากล่าวอ้างว่าที่นี่ไม่มีทรัพยากรที่สำคัญ

“กุ้งทองที่พบจำนวนมากที่เทพาตอนนี้ เป็นวัตถุดิบสำคัญนำมาผสมทำกะปิ ตอนนี้ พวกเราสามารถมีรายได้เพิ่มกว่าปกติ ปลาโลมาสีชมพู ก็เข้ามาว่ายบ่อยๆ มันแสดงชัดว่าที่นี้สมบูรณ์ไม่ได้แห้งแล้งอย่างที่กลุ่มสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกล่าวอ้าง” นางมารีแย กล่าว

นางมารีแย กล่าวว่า ราคากุ้งทองหรือกุ้งเคยอยู่ที่กิโลกรัมละ 180-200 บาท ชาวบ้านสามารถหากุ้งได้วันละ 50 กิโล ก็สามารถมีรายได้ 9,000-10,000 บาท อย่างนี้ เขาไม่เรียกว่า สภาพพื้นที่อุดมสมบุรณ์ จะให้เรียกว่าอะไร

“อยากให้รัฐบาล พิจารณาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินด้วยว่า ไม่ควรเกิดขึ้นที่นี้ เพราะที่นี้ ชาวบ้านสามารถอยู่กับวิถีชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยไม่ได้มีความแห้งแล้งแต่อย่างใด” นางมารีแยกล่าว

นายดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า “กุ้งเคยหรือกุ้งกะปิ เข้ามาหากินบริเวณชายฝั่งทำให้ชาวบ้านมีโอกาสได้จับกุ้งเหมือนในอดีต ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อำเภอเทพา มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ได้แร้นแค้นเป็นทะเลทรายอย่างที่ฝ่ายสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกล่าวอ้าง”

ขอยืนยันว่าที่นี้มีความสมบูรณ์ทั้งบนบก และในทางทะเล อำเภอเทพา มีความอุดมสมบูรณ์ คนเทพาได้ใช้ทรัพยากรเหล่านี้ดำรงชีวิตมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหมาะต่อการตั้งถิ่นฐานดำรงชีวิต วันนี้ ชาวบ้านแต่ละคนที่ออกไปจับกุ้งเคยมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ต่อครอบครัว ซึ่งขึ้นอยู่กับความขยันและความชำนาญด้วย

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มีโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา กำลังผลิต 2,200 เมกกะวัตต์ ใช้พื้นที่ก่อสร้าง 2,960 ไร่ จะตั้งอยู่ในตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา หากการก่อสร้างสำเร็จจริง โรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง

นายเอกชัย อิสระทะ เครือข่ายพลเมืองสงขลา กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านเทพา เริ่มมีการผลักดันให้ก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2558 โดยก่อนหน้านี้ โครงการดังกล่าวไม่เคยอยู่ในแผนการพัฒนาของอำเภอ เพราะปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีโรงไฟ้าถึง 2 แห่ง กำลังผลิตถึง 1,500 เมกกะวัตต์ต่อปี และที่ผ่านมาโครงการก็สร้างผลกระทบให้กับคนในพื้นที่ ตนจึงเห็นว่า ปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีไฟฟ้าเพียงพอ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างปัญหาเพิ่ม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ มณฑลทหารบกที่ 42 ได้เป็นผู้ปประสานการจัดเวทีชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่จัดขึ้นที่โรงแรมเทพาบีชรีสอร์ท อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พบว่ามีประชาชนที่เข้าร่วมงานได้แสดงทั้งการคัดค้าน และบางส่วนเห็นด้วยกับโครงการ