นราธิวาส เพชรเม็ดงามของแดนใต้
2016.01.20
ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน
แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนราธิวาสที่น่าสนใจมีมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม ธรรมชาติ ป่าเขา หาดทราย ทะเล น้ำตก และอีกมากมายที่สวยงามและดึงดูด แม้พื้นที่จะมีความพร้อมในเชิงศักยภาพและทรัพยากรทางธรรมชาติ ได้เปรียบกว่าพื้นที่อื่น ในการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อันน่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ก็ตาม หากเป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ด้วยความสวยงามเหล่านี้ถูกบดบังจากภัยความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินในการเดินทางมาเยือนนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
การท่องเที่ยวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ผสานวัฒนธรรม และประเพณีทั้ง จีน-พุทธ-อิสลาม กิจกรรมท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดนราธิวาส เช่น เยี่ยมชมมัสยิด 300 ปี หรือชื่อเป็นทางการ คือ มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น ในอำเภอบาเจาะ สักการะศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) ชมทะเลที่ชายหาดนราทัศน์ น้ำตกฉัตรวาริน น้ำตกปาโจ อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี และอุทยานแห่งชาติฮาลาบาลา ที่เป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกถึง 7 ชนิด จากจำนวน 13 ชนิด เที่ยวเมืองชายแดนที่ด่านสุไหงโก-ลก เดินศึกษาธรรมชาติในป่าพรุโต๊ะแดง งานฉลองเทศกาลรายอ งานเมาลิดกลาง งานแข่งเรือกอและ งานแข่งขันนกเขาเสียง และการประกวดนกเขาชวา นกเขาใหญ่ขัน เป็นต้น
นราธิวาสเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันเป็น 1 ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในโครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเมืองชายแดนอยู่ที่อำเภอสุไหงโก-ลก ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์นิยมมาเที่ยวพักผ่อน และซื้อสินค้า รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมมาเนิ่นนาน
จังหวัดนราธิวาสมีเนื้อที่ประมาณ 4,475 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าและภูเขาหนาแน่นถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด ภูเขาแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้จดเทือกเขาสันกาลาคีรี เป็นแนวพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย พื้นที่ราบส่วนใหญ่อยู่ติดกับอ่าวไทย และที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำ 4 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำตากใบ และแม่น้ำโก-ลก