อดีตครูเสียชีวิต นร.หญิง-เจ้าหน้าที่ บาดเจ็บรวม 4 ราย ในสองเหตุระเบิดชายแดนใต้

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวในวันอังคารนี้ว่า คนร้ายได้ลอบวางระเบิดหน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 52 ในอำเภอยะรัง ปัตตานี จนทำให้นักเรียนหญิงวัย 12 ปี และเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่คนร้ายในอำเภอเทพา สงขลา ได้สังหารเจ้าของรถกระบะเสียชีวิตหนึ่งราย ก่อนนำรถไปทำคาร์บอมบ์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหนักอีกสองราย

เมื่อเวลา 07.45 น. ร.ต.ท.ทักษ์เชษฐ์ เบญจธรรมรักษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 52 ตรงบริเวณหน้าสำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน ต.เมาะมาวี บ้านพงสาฆอ ม.1 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ด.ญ.นุรอีมาน แนแซ อายุ 12 ปี และ ส.ต.ศราวุธ อะมะมูล อายุ 28 ปี ทั้งคู่ถูกสะเก็ดระเบิด มีอาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลยะรัง จังหวัดปัตตานี และ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ตามลำดับ ล่าสุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ส.ต.ศราวุธ อะมะมูล ซึ่งรับผ่าตัดบริเวณแขนและขา และด.ญ.นุรอีมาน แนแซ ที่มีแผลบริเวณลำตัว มีอาการโดยรวมอยู่ในขั้นปลอดภัย

“จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารในสังกัด ร้อย.ทพ.2201 ฉก.ทพ.22 จำนวนหนึ่งชุด เดินเท้าลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับครูโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 52 เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดนำมาซุกซ่อนไว้ใต้ที่กระถางต้นไม้ใกล้กับที่นั่งม้าหินอ่อน เด็กอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นและสาเหตุนั้น เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่” ร.ต.ท.ทักษ์เชษฐ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

คนร้ายฆ่าชิงรถทำคาร์บอมบ์

ส่วนที่อำเภอเทพา สงขลา เมื่อเวลา 05.40 น. พ.ต.ท.ชานนท์ นวลนิ่ม รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณริมถนน ม.3 บ้านนิคม ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ใกล้ฐานที่ตั้งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ร.ต.ท.สมนึก แก้วหมุน ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลเทพา และ ร.ต.อ.ญ.สินีนาถ คงพุทธ ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอกซ้าย นำส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสี่ราย โดยถูกแรงอัดแต่อาการไม่สาหัส

จากการสอบสวนสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุระเบิด ได้มีคนร้ายดักปล้นรถยนต์ของนายอมตะ สโมทานทวี แล้วนำตัวไปทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ในพื้นที่ของอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา จากนั้น คนร้ายได้นำรถยนต์ของนายอมตะไปดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์ ก่อนจะนำไปวางในที่เกิดเหตุข้างต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นอกจากนี้ สะเก็ดระเบิดทำลายหม้อแปลงไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ส่วนสาเหตุนั้น พ.ต.ท.ชานนท์ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

สำหรับเหตุการณ์ในอำเภอเทพานั้น พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงภายใต้การนำของนายบูคอรี ล่ำโส๊ะ และนายเสรี แวมามุ

“คาดว่าเป็นกลุ่มของนายบูคอรี ล่ำโส๊ะ และนายเสรี แวมามุ ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบในพื้นที่โดยเฉพาะที่บ้านพักของเขาเอง” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

พ.อ.ปราโมทย์ ได้กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เทพาอีกว่า ก่อนเกิดกลุ่มเหตุคนร้ายได้ปล้นรถยนต์กระบะจากนายอมตะ สุโมทานทวี อดีตข้าราชการครู ในสะบ้าย้อย ก่อนสังหารโหด แล้วนำรถกระบะไปทำคาร์บอมบ์

“พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุภายในถังแก๊สหุงต้ม โดยคนร้ายนำระเบิดไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์กระบะ ชื่อผู้ครอบครอง คือ นายอมตะ สุโมทานทวี อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/8 หมู่ที่ 1 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นอดีตข้าราชการครู ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่บ้าน ได้พบศพนายอมตะ เสียชีวิต โดยสภาพศพถูกปิดปาก แขวนคอ อยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

จากการรวบรวมตัวเลขของทางการ นับตั้งแต่วันปีใหม่ 2562 จนถึงการเกิดสองเหตุการณ์ในวันนี้ ได้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงและระเบิดแล้ว 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย  ซึ่งทางคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของไทยและผู้อำนวยความสะดวกของมาเลเซีย กำลังดำเนินการเตรียมการพูดคุยกับฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อหาทางยุติปัญหาที่มีมานานกว่า 15 ปี

ดร.อนุชิต งามขจรวิวัฒน์ นักวิชาการอิสระในปัตตานี ให้ทัศนะว่า มีกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จริง แต่มีจำนวนน้อย ซึ่งน่าจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

“ยอมรับว่าในพื้นที่มีคนที่มีความคิดที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน แต่ก็มีไม่มาก สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ความไม่สงบมันเกิดมานาน เรื่องยาเสพติดก็มีมากด้วยและมันมีไปทุกบ้านเลย ทุกหมู่บ้านเต็มไปหมด ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ต้องแก้ที่ความยากจน ถ้าทุกคนมีงานทำ ก็ไม่มีใครอยากไปเป็นโจร” ดร.อนุชิต กล่าวแก่เบนาร์นิวส์