เจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ต้องหาวางระเบิดบิ๊กซีหนึ่งราย จับเป็นสองราย
2017.07.12
ปัตตานี

ในวันพุธ (12 กรกฎาคม 2560) กองกำลังร่วมเจ้าหน้าที่สามฝ่าย ได้ปะทะกับกลุ่มผู้ต้องหาวางระเบิดห้างบิ๊กซีและสถานที่ท่องเที่ยวในเจ็ดจังหวัดภาคใต้ตอนกลาง หลังมัสยิดบ้านกาฮง ในอำเมือง จังหวัดปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงผู้ร้ายเสียชีวิตหนึ่งราย จับตัวได้อีกสองราย ส่วนอีกสองรายหลบหนีไปได้
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 และฝ่ายปกครอง นำกำลัง 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณป่าด้านหลังมัสยิดบ้านกาฮง ม.5 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จนเกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้าย 5 คน กันประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลังเสียงปืนสงบ พบฝ่ายคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย พร้อมด้วยอาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
"วันนี้ เมื่อเวลา 05.00 นาฬิกา ได้นำกำลังร่วมเข้าติดตามคนร้ายที่เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ทำให้มีการปะทะกับคนร้าย และฝ่ายคนร้ายเสียชีวิต คือนายสุดิน มามะ จับผู้ต้องสงสัยได้สองราย ที่เหลือได้หลบหนีไป" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดปัตตานี กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุดิน มามะ อายุ 29 ปี ผู้เสียชีวิต มีหมายจับจากศาลปัตตานี ในข้อหาร่วมก่อเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2560 และหมายจับที่ จ.382/56 ลง 19 ธ.ค.56 ฐานกระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์รถจักรยายนต์ของ น.ส.สภาณี อินทรศักดิ์ เมื่อ 6 พ.ย.2556 เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ข้างศพนายสุดิน และบริเวณแคร่ห่างจากศพประมาณ 20 เมตร ยังพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. หนึ่งกระบอก พร้อมกระสุนปืนในแม็กกาซีน 11 นัด เป้สนามบรรจุอาหาร 1 ใบ และเปลผูกไว้กับต้นไม้ 1 ผืน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมได้ คือ นายเปาซี ตาสาเมาะ อายุ 45 ปี และนายอับดุลเลาะ เจะมะ ถูกนำตัวส่งไปที่หน่วยซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อนำเข้ากระบวนการซักถามต่อไป
“สำหรับคนร้ายที่หนีรอดไปได้ 2 ราย เป็นผู้ต้องหาในคดี วางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ และวางระเบิดบิ๊กซี ปัตตานี คือ มีนายมะนาเซ ไซดี และ นายยูโซะ แมะตีเมาะ” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านพันโทโกเมธ รัตนโผ่งใส่ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ 23 กล่าวถึงที่มาของการล้อมจับกุมว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ากลุ่มคนร้ายหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่นี้ตั้งแต่เมื่อตอนเย็นของวันวาน
"จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายได้เข้ามาอาศัยหลบซ่อนในพื้นที่เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานโดยอาศัยปลูกเปลแคร่หลังมัสยิดพักอาศัย ชาวบ้านจึงแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบจึงได้สนธิกำลังร่วมเข้ามาปิดล้อม จนเกิดการขัดขืนและยิงปะทะจนสามารถวิสามัญคนร้ายได้ 1 คน และหลบหนีได้อีกบางส่วน ส่วนผู้ตายเป็นหนึ่งในทีมระเบิดบิ๊กซีปัตตานี" พันโทโกเมธ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
นายแวยูโซ๊ะ สะแลแม ชาวจังหวัดปัตตานี ได้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุที่เกิดขึ้นว่า หากว่าทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อคนร้ายตัวจริง สังคมจะยอมรับได้และจะไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน แม้ว่าจะมีการใช้กำลังและเกิดการสูญเสียชีวิตก็ตาม
"ถ้าเป็นการต่อสู้ระหว่างคู่ต่อสู้จริงๆ ชาวบ้านจะไม่ว่าอะไรและเข้าใจเพราะว่าต่างฝ่ายต่างมีอาวุธ แม้จะทำให้เกิดการสูญเสียในชีวิต ชาวบ้ านเขาก็จะไม่ต่อต้าน แต่ถ้ายิงแพะ ทันทีปฏิกิริยาของคนในพื้นที่จะต้องมีการต่อต้าน" นายแวยูโซ๊ะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ด้าน พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 กล่าวว่า ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจปัตตานี ได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ถึงความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติครั้งนี้ ซึ่งทุกคนให้การตอบรับและเข้าใจเป็นอย่างดี
สำหรับคดีการระเบิดห้างบิ๊กซีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 60 รายนั้น ทางการได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 9 ราย รวมทั้งนายสุดินที่เสียชีวิตในวันนี้ ส่วนคดีระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนกลางเมื่อกลางเดือนสิงหาคม ปีที่แล้วนั้น ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว 10 ราย