ทางการไทยยกระดับรักษาความปลอดภัยเอเปค หลังระเบิดในชายแดนใต้

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวในวันพุธนี้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ยกระดับความเข้มข้นในการดูแลการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค หลังจากมีการวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนวานนี้ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า ได้ใช้กำลังราวห้าหมื่นนาย ในการดูแลศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งโรงแรมที่พักของบรรดาผู้ร่วมประชุม

พล.อ. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวในวันพุธนี้ว่า ทางกลาโหมได้มอบหมายให้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมีความตื่นตัวในการเฝ้าระวังสถานการณ์

“เหตุป่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ และไม่ว่าจะที่ใดหากเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและคนไทยทุกคน ขณะที่เรากำลังสร้างความเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศกับนานาประเทศ ขอให้หน่วยงานข่าวและหน่วยงานความมั่นคง เฝ้าระวังป้องกัน ไม่ประมาทจากการก่อเหตุทั้งในและนอกพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ยกระดับความเข้มข้น ตื่นตัวเฝ้าระวังและตรวจสอบติดตามความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมาย” พล.อ. คงชีพ กล่าวในวันพุธนี้

พล.อ. คงชีพ ได้สื่อสารหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ในอำเภอเมือง ปัตตานี ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย เมื่อคืนวานนี้ ขณะที่การวางระเบิดในปั๊มน้ำมัน พีที ในอำเภอยะหริ่ง ปัตตานี และการวางเพลิงตู้สาขาสายโทรศัพท์ ในอำเภอรามัน ยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ก่อนหน้านั้น ในวันอาทิตย์ คนร้ายลอบวางระเบิดแล้วยิงซ้ำชาวบ้านที่หาของป่าในบริเวณบ้านไอร์มือเซ อำเภอจะแนะ นราธิวาส มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และได้รับบาดเจ็บอีกสองราย และเกิดเหตุวางระเบิดรถยนต์ทหารที่เข้าตรวจสอบเหตุยิงชาวบ้าน จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตหนึ่งนาย บาดเจ็บอีกหนึ่งนาย ไม่มีกลุ่มก่อเหตุรุนแรงกลุ่มใดแสดงความรับผิดชอบ

ล่าสุดในตอนค่ำของวันพุธนี้ ได้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณสามแยกทางเข้าโรงเรียนบ้านคาโต ในอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย ทราบชื่อ คือ ส.ต.อ. อนุชา ยามาสา ถูกนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

โดยปกติแล้ว ขบวนการบีอาร์เอ็นมักจะก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ แต่ต้องสงสัยวางระเบิดนอกพื้นที่แล้วอย่างน้อยสามครั้ง

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN) พบการวางระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ เช่น บีทีเอสช่องนนทรี, ย่านพระรามเก้า, ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ, กองบัญชาการกองทัพไทย, สยามสแควร์วัน รวมถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมจากทุกจุด อย่างน้อย 7 ราย เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยกว่า 20 ราย ส่วนหนึ่งระบุว่าเป็นสมาชิกบีอาร์เอ็นและบุคคลในสามจังหวัดชายแดนใต้

ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งจะมีผู้นำหรือรองผู้นำจาก 19 ประเทศ และไต้หวัน และฮ่องกง มาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในสองวันสุดท้าย

ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมาเข้าร่วมประชุม ส่วนนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี มาประชุมแทน

ในวันเดียวกันนี้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยเข้มแข็ง และไม่ให้ผู้ใดมาบ่อนทำลายการประชุมนานาชาติในครั้งนี้