ศบค. ปรับแผนกระจายวัคซีนให้เน้นกลุ่มเสี่ยง พื้นที่ติดเชื้อมาก

ในวันพุธนี้ นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าว ทางรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนการบริหารการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยการเน้นที่กลุ่มเสี่ยงและพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อสูง จากเดิมที่ให้จองผ่านแอปหมอพร้อม แต่ผู้ขอรับวัคซีนกลับกระจุกตัว ในจังหวัดที่มีคนติดเชื้อน้อย

“แผนการแจกจ่ายวัคซีน จากเดิมจังหวัดนี้จองเท่าไหร่ จัดสรรโควต้าไปตามนั้น ปรากฎว่าบางจังหวัดจองจำนวนมาก คนติดเชื้อน้อย มีประเด็นขึ้นมา เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมีเกณฑ์อื่น ๆ ขึ้นมา เช่น ใช้เกณฑ์การติดเชื้อ ในแง่มุมเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว กลุ่มบุคคลเสี่ยง แรงงานในแคมป์ จะต้องมีการได้วัคซีนเป็นกลุ่มเฉพาะ มหาวิทยาลัยก็จะฉีดในกลุ่มเฉพาะ” โฆษก ศบค. ระบุ

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไปแล้ว 7,944,411 ราย ศบค. ยืนยันว่า ยังจะได้รับวัคซีนตามกำหนดเดิม

“การลงทะเบียนวัคซีนเดิมใช้ระบบของหมอพร้อม ตอนนี้ขอให้ชะลอการลงทะเบียนด้วยระบบหมอพร้อมไปก่อน ตอนนี้ให้หมอพร้อมทำงานติดตามการฉีด และออกใบรับรอง ข้อที่หนึ่งให้มีทางเลือกกับประชาชน ที่จังหวัดภูเก็ตมีแอปเฉพาะกับภูเก็ต กทม. ก็จะได้เปิดการลงทะเบียนของ กทม. 27 พฤษภาคม ตอนเที่ยง หรือนนทบุรี ก็จะมีระบบของนนทบุรี ไม่เป็นคอขวดอย่างเดิม” นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงผลการประชุม

โดยปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แล้ว 3,147,227 โดส ในนั้นเป็นเข็มแรก 2,157,609 ราย เข็มที่สอง 989,618 ราย

นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยในการแถลงสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ประเทศไทยยังพบผู้เสียชีวิต และติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตรายใหม่ 41 ราย รวมเสียชีวิตสะสมปีที่แล้ว 873 ราย มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,455 ราย รวมยอดรวมสะสมตั้งแต่ปีที่แล้ว 137,894 ราย

ศบค. ระบุว่า ผู้เสียชีวิตวันพุธนี้ เป็นผู้ชาย 25 ราย ผู้หญิง 16 ราย มีอายุเฉลี่ย 66 ปี คือ ระหว่าง อายุ 29 - 86 ปี กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 16 ราย สมุทรปราการ 7 ราย นนทบุรี 3 ราย ชลบุรี และปทุมธานี 2 รายต่อจังหวัด สิงห์บุรี สุโขทัย อุดรธานี นราธิวาส เลย สกลนคร นครสวรรค์ ปราจีนบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช และสมุทรสาคร 1 รายต่อจังหวัด

“ในนี้ (ผู้ที่เสียชีวิต) มีความเสี่ยงจากโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ไขมันเลือดสูง ยังเป็นอันดับต้น ๆ ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คนในครอบครัว บุคคลอื่นที่อยู่ใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน โต๊ะสนุกเกอร์ รวมถึงสนามชนวัว หรือตลาด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม

กทม. เปิดเผยจุดเสี่ยง 38 แห่ง ประจวบฯ สั่งกักตัวแรงงานเมียนมา 1.3 พันคน

ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 ของ ศบค. ได้มีการเปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรุงเทพฯ มีพื้นที่เฝ้าระวังโควิด-19 ทั้งสิ้น 38 แห่ง กระจายตัวในหลายเขต เช่น คลองเตย หลักสี่ ดินแดน ห้วยขวาง ราชเทวี ดอนเมือง หรือพระนคร เป็นต้น โดย 5 แห่งที่พบใหม่ล่าสุดคือ ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว, โรงงานเย็บผ้าย่านยานนาวา, ตลาดแห่งหนึ่งย่านหนองจอก, เคหะแห่งหนึ่ง แขวงคลองจั่น และแคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง เขตสวน หลวง

“บริเวณตลาดบางกะปิ และชุมชนโดยรอบ พบผู้ติดเชื้อทั้งชาวไทย เมียนมา กัมพูชา และลาว โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96 คน ยอดสะสมตลาดบางกะปิ 438 คน แคมป์ก่อสร้าง 19 คน คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 161 คน ยอดป่วยสะสม 1,413 คน, พื้นที่ตรอกมะขาม 2 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 16 คน ยอดป่วยสะสม 403 คน, ชุมชนและตลาดคลองเตย เขตคลองเตย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 78 คน ยอดป่วยสะสม 1,376 คน และคลัสเตอร์ใหม่ สะพานเหล็ก เขตพระนคร พบผู้ติดเชื้อ 12 คน” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ

ขณะที่ในต่างจังหวัด จ.เพชรบุรี พบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งชาวไทย เมียนมา กัมพูชา อินเดีย และจีน กระจาย 8 อำเภอ ทำให้มียอดป่วยสะสม 2,790 ราย และ โรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ติดเชื้อ 11 ราย

ขณะเดียวกัน นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า โรงงานผลิตสัปปะรดกระป๋อง บริษัท โดล ไทยแลนด์ จำกัด หมู่ 4 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 42 ราย เป็นแรงงานเมียนมา 39 คน และแรงงานไทย 3 คน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีการสั่งการกักตัวผู้ที่อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อ

“ยังไม่มีคำสั่งปิดโรงงานโรงงานผลิตสัปปะรดกระป๋อง เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาการกระจายตัวของแรงงานไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ทำให้ยากต่อการควบคุม แต่จะใช้แนวทางการบริหารจัดการควบคุมนำผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและกักตัวแรงงานพม่า 1,376 คน ทั้งหมดไว้ในหอพักของโรงงาน” นายพัลลภ ระบุในการแถลงข่าว