นายกฯ แถลงไม่ประกาศเคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์

ในวันศุกร์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า ประเทศไทยจะยังไม่มีการกำหนดเคอร์ฟิว หรือล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แม้ว่าวันนี้จะพบผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่ม 1,582 ราย ซึ่งเป็นการทำลายสถิติการพบผู้ติดเชื้อในหนึ่งวันสูงสุดเป็นวันที่สามติดต่อกันก็ตาม

ด้านจังหวัดสงขลาได้งดการละหมาดวันศุกร์และตะรอเวียะห์ ในช่วงเดือนรอมฏอนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดจำนวนมาก

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงหลังการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยยังสามารถรักษาได้ จึงยังไม่ใช้มาตรการสูงสุดในการควบคุม เช่น การห้ามเดินทาง หรือเคอร์ฟิว

“สิ่งสำคัญ ยืนยันขณะนี้ ไม่มีการเคอร์ฟิว ยังไม่ล็อกดาวน์ แต่อาจต้องลดเวลาลงบ้าง ปิดง่ายนิดเดียว แต่คนเดือดร้อนคือใคร… มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลออกมาทุกครั้ง ผมเจ็บปวด ไม่สบายใจ เพราะมีผลกระทบต่อประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เพราะเป็นแหล่งทำมาหากินหรืออาชีพของทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนมากเกินไป เพราะว่าเราก็พยายามจะแก้ปัญหาด้วยหลักการ ด้วยวิธีการของเรา ซึ่งเราเคยได้รับผลดีมาแล้วจากระยะที่หนึ่ง ที่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย… การแพร่ระบาดระยะที่สอง ในสมุทรสงคราม ตัวเลขก็เพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน อันนี้ก็เป็นการแพร่ระบาดอีก มีการแพร่ระบาดในที่ที่มีการค้าขาย ตลาดปลาอะไรก็แล้วแต่ คราวนี้มาสู่ระยะที่สาม หาสาเหตุก็มีการแพร่มาจากสถานที่ท่องเที่ยว การประกอบกิจการท่องเที่ยวและบริการซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติม

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ประเทศไทยวางแผนที่จะฉัดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ และหากวัคซีนถูกส่งมาถึงประเทศไทยเพิ่มขึ้น อยากเชิญชวนให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุไปแล้วมาช่วยกันดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนด้วย

ด้าน นพ. เฉวตสรร นามวาท รักษาการผู้อำนวยการกองการควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อยืนยันในหนึ่งวันมากเป็นสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยนับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว หลังจากวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพบติดเชื้อรายใหม่ 1,543 ราย

“การติดเชื้อใหม่ของประเทศไทย 1,582 ราย มาจากต่างประเทศเพียง 5 รายเท่านั้นที่เหลือเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย วินิจฉัยในโรงพยาบาลระบบบริการ 921 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 656 ราย ยอดสะสมในระลอกใหม่ 10,461 ราย” นพ.เฉวตสรร

กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 39,038 ราย มีผู้ที่รักษาหายแล้วและกลับบ้านได้ 28,480 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 10,461 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 9,884 ราย และโรงพยาบาลสนาม 577 ราย อาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 97 ราย

ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในการระบาดระลอกล่าสุด เดือนเมษายน 2564 คือ กรุงเทพ 2,697 ราย เชียงใหม่ 1,749 ราย ชลบุรี 855 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 625 ราย และสมุทรปราการ 515 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 510,456 ราย เข็มที่สอง 75,576 ราย รวมฉีดวัคซีนสะสม 586,032 เข็ม

ด้าน กรมการแพทย์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ไว้แล้วกว่า 4 แสนเม็ด และองค์การเภสัชกรรมได้มีการสั่งซื้อเพิ่มอีก 5 แสนเม็ด โดยจะได้นำแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อพร้อมใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19

สงขลางดละหมาดวันศุกร์เดือนรอมฏอน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่ามีการแพร่ระบาดไม่น้อย โดยในการระบาดระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 จังหวัดนราธิวาส พบผู้ติดเชื้อ 330 รายมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของประเทศ สงขลา 162 ราย เป็นอันดับ 10 ของประเทศ ปัตตานี 6 ราย เป็นอันดับที่ 68 และยะลา 2 ราย เป็นอันดับที่ 75

ในวันศุกร์นี้ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสงขลา กล่าวว่า แม้ปัจจุบัน จะอยู่ในช่วงเดือนรอมฏอน แต่เพื่อความปลอดภัยจึงมีการสั่งให้งดกิจกรรมทางศาสนาที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ตามที่มีประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี มีการกำหนดจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 50 คนขึ้นไป ขอให้งดการละหมาดวันศุกร์ ละหมาดตะรอเวียะห์ เอี๊ยะตีกาฟ และการรวมกลุ่มละศีลอดที่มัสยิด จากสถานการณ์ปัจจุบัน สงขลามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 คน คณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดสงขลาขอให้ยึดถือการประกาศของสำนักจุฬา และวันนี้โดยรวมในพื้นที่ สงขลา ไม่มีมัสยิดประกอบพิธีละหมาดวันศุกร์” นายศักดิ์กรียา กล่าว

ด้าน นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานี และยะลา ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสำนักจุฬาราชมนตรี แต่ยังคงมีการละหมาดที่มัสยิด

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ประกาศงดการเยี่ยมไข้ที่โรงพยาบาล หากไม่มีความจำเป็นแล้ว หลังจากพบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ 6 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยหากมีความจำเป็นจะสามารถเยี่ยมได้ครั้งละ 1 คน และต้องเยี่ยมในเวลาที่โรงพยาบาลกำหนดเท่านั้น โดยข้อกำหนดนี้ถูกประกาศในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา