ผู้ต้องหาก่อเหตุรุนแรงในปัตตานีถูกยิงตาย 1 อีกรายมอบตัว
2022.07.05
ปัตตานี

ก่อนเช้าตรู่วันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยิงผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต 1 ราย หลังเจ้าตัวยิงต่อสู้ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุรุนแรงได้อีก 1 ราย หลังจากการเจรจาจนถึงตอนเช้า
เจ้าหน้าที่ทหาร กล่าวว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 2 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อจับกุมตัวนายมะยากี มะลาซิง และนายคอและ เซ็ง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านคนละหลังในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่นายมะยากีกลับใช้อาวุธยิงใส่เพื่อเปิดทางหลบหนี แม้ว่าผู้นำท้องถิ่นช่วยเจรจาให้มอบตัวแล้วก็ตาม
“คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายมะยากี มะลาซิง อายุ 30 ปี ข้างศพพบอาวุธปืนพกขนาด .38 ซุปเปอร์ 1 กระบอก และระเบิดขว้างแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 2 ลูก ของคนร้ายตกอยู่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาที่มา และประวัติการก่อเหตุต่อไป” พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงศ์ โฆษก กอ.รมน. ภาคสี่ ส่วนหน้ากล่าวกับผู้สื่อข่าว และระบุว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย
หลังจากที่นายมะยากี มะลาซิง เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนา ช่วยเจรจาให้ผู้ต้องสงสัยอีกรายที่หลบซ่อนอยู่ภายในที่พักออกมามอบตัว จากนั้น นายคอและ เซ็ง อายุ 37 ปี จึงออกมามอบตัวและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นที่พัก โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายคอและ เซ็ง เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย และได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีตามกฎหมายต่อไป
ด้านญาติของผู้ตายกล่าวว่า ตนทราบว่านายมะยากี มะลาซิง ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีวางระเบิดที่กรุงเทพ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 ต่อมา นายมะยากีได้หลบหนีไปหลังจากที่นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงคดีอื่น เสียชีวิตในโรงพยาบาลช่วงปลายเดือนสิงหาคม และเชื่อว่าถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิต
“เมื่อช่วงสองอาทิตย์แรกที่อับดุลเลาะ อีซอมูซอ เข้ารักษาที่ มอ. หาดใหญ่ เขาเป็นช่างก่อสร้างบ้านกับอับดุลเลาะด้วย หลังจากที่อับดุลเลาะ เสียชีวิตแบบนั้น เขาก็หายออกจากบ้านเลย ไม่กล้าอยู่บ้าน ชาวบ้านรู้กัน ก็มารู้ข่าวอีกทีเขาตายถูกวิสามัญ” ญาติของผู้ตายซึ่งไม่ประสงค์จะออกนามเพื่อความปลอดภัย กล่าวกับเบนาร์นิวส์
เจ้าหน้าที่ระบุว่า นายมะยากี มะลาซิง เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป. วิอาญา จำนวน 5 หมาย ซึ่งรวมทั้งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพ ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 2562 ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2562 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จากประเทศสมาชิกและประเทศพันธมิตร เช่น จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฯลฯ และอื่น ๆ รวม 31 ประเทศ
เมื่อสามปีก่อน ในช่วงเย็นของวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยในถุงพลาสติก หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล ซึ่งเป็นที่ใช้จัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ระเบิด เป็นเพียงกล่องและแผงวงจร แต่ไม่มีดินระเบิด
แต่ในเช้าวันถัดมา ได้เกิดเหตุระเบิดภายในซอยพระรามเก้า 57/1 เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบปิงปอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน และในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีย์ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า 1 ราย และที่พุ่มไม้หน้าอาคารบี และกองบัญชาการกองทัพไทย ภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พบหลักฐานเป็นระเบิดแสวงเครื่อง และจุดที่ 4 เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดระเบิดอีก 1 ครั้ง ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน จ.นนทบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ในคดีวางระเบิดครั้งนั้น เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย ถูกยิงเสียชีวิตในการล้อมจับ 2 ราย แต่ไม่มีรายงานความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด
สำหรับการปฏิบัติการปิดล้อมในวันอังคารนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบก่อนมีการยิงปะทะกันขึ้น
ด้าน พล.ท. เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรัดกุม โดยเน้นย้ำการเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว
“ส่วนในพื้นที่ปัตตานี คนร้ายยิงต่อสู้จึงทำให้เกิดการเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหากไม่มีการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะไม่เกิดการสูญเสียขึ้น” พล.ท. เกรียงไกร กล่าว และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ข้อมูลคนร้ายที่เข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่