ขบวนนักศึกษาแห่งชาติยัน ไม่คิดแบ่งแยกดินแดน
2023.06.13
ปัตตานี

ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar bangsa) ยืนยันการทำประชามติจำลอง “คุณเห็นด้วยกับ “สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง” หรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย” เมื่อวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน และเชื่อว่าการให้คนปาตานีกำหนดชะตากรรมตนเอง คือทางออกของปัญหาชายแดนใต้
ด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้จัดทำประชามติจำลองดังกล่าว เพราะเชื่อว่า เข้าข่ายผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 มีงานเปิดตัว ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Bangsa) ซึ่งเชิญตัวแทนว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล นักวิชาการ และนักเคลื่อนไหว เข้าร่วมเสวนาจำนวนหลายสิบคน ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
โดยในงานนั้นมีการให้ผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถามว่า “คุณเห็นด้วยกับ “สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง” หรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย” ซึ่งต่อมากิจกรรมนี้ถูกวิจารณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตว่า อาจเข้าข่ายแบ่งแยกดินแดน
นายฮุซเซ็น บือแน เลขาธิการ ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ เขตยะลา เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงประเด็นดังกล่าวว่า กิจกรรมในงานเปิดตัว ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Bangsa) เมื่อพุธที่แล้ว เป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้กฎหมาย และเป็นการเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี
“สิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารจริง ๆ ก็คือ คุณเห็นด้วยหรือเปล่า กับการที่จะให้ประชาชนได้มีสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง ได้ออกมาทำประชามติ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ถามว่า คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า คุณต้องการเอกราช สิ่งที่เราทำยังอยู่ภายใต้กฎหมาย เราเชื่อว่า ถ้าสิทธิเสรีภาพในการพูดคุยยังผิดกฎหมาย ตัวกฎหมายต่างหากที่ผิดปกติ” นายฮุซเซ็น กล่าว
ด้าน นายอักรอม วาบา รองประธานขบวนนักศึกษาแห่งชาติ ชี้ว่า “เราต้องยอมรับว่า คนที่นี่บางกลุ่มไม่ได้ต้องการเอกราช บางกลุ่มคนที่ถืออาวุธก็บอกว่า คนที่นี่ต้องการเอกราช พอมันเป็นแบบนั้น เราก็ต้องมีกระบวนการอย่างหนึ่งที่จะต้องพิสูจน์ว่า จริง ๆ แล้วคนที่นี่ต้องการอะไร ซึ่งเป็นขบวนการที่เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหา”
นายอักรอม ระบุว่า การตีความของสื่อมวลชน หรือคนบางกลุ่มในสังคมทำให้กิจกรรมของพวกเขาถูกเข้าใจผิดว่า ต้องการแบ่งแยกดินแดน รวมถึงมีพรรคการเมืองบางพรรคอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง และทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีบุคคลต้องสงสัยตามไปที่บ้านพักของสมาชิกขบวนฯ บางคน
“ล่าสุดก็มีนอกเครื่องแบบไปถ่ายรูปหน้าบ้านสมาชิกของพวกเราด้วย มันไม่สมควรมาก ๆ เพราะมันเป็นสิทธิของนักศึกษา ประชาชน ในการแสดงออก พูดคุย มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ถ้าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย” นายอักรอม กล่าว
ในประเด็นเดียวกัน พล.ท. ศานติ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยอาจดำเนินการกับพรรคการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
“เห็นตรงกันว่ามีแนวโน้มจะหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมาย ฝากพี่น้องประชาชนช่วยทำความเข้าใจด้วยเหตุและผล แนะนำบุตรหลานของท่านที่อยู่ในประเทศไทยว่า การลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช ไม่สามารถกระทำได้ เพราะเป็นการละเมิดกฎหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนและเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ และที่สำคัญเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกส่วนด้วยดีมาเสมอ” พล.ท. ศานติ กล่าว
ในวันเดียวกัน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ประเด็นนี้ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายความมั่นคงกำลังดำเนินการติดตามอยู่ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลต้องการที่สุดคือ ไม่ต้องการให้สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้กลับมารุนแรงอีกครั้ง
นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก จากกลุ่ม The Patani ในฐานะผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อวันพุธที่แล้ว ชี้ว่า กิจกรรมของขบวนฯ เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้
“สิ่งที่เราเห็นขบวนนักศึกษาแห่งชาติทำ คือ การนำข้อถกเถียงที่มีในสังคมปาตานีมานานมาคุย เป็นเรื่องธรรมดามาก เช่นเดียวกับประเด็นเรื่อง ม. 112 ผมเข้าใจว่าที่ขบวนอยากจะทำคือ หากวันนึงรัฐไทยเติบโตมีประชาธิปไตยเพียงพอ รัฐไทยก็จะเปลี่ยนกฎหมายไปสู่การให้สิทธิให้คนท้องถิ่นกำหนดอนาคตของตัวเอง ไม่ได้แปลว่า เขาจะไปล้มล้างรัฐธรรมนูญ” นายอาเต็ฟ กล่าว
ด้าน น.ส. อัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ แสดงความเห็นต่อท่าทีของฝ่ายความมั่นคงว่า เป็นการใช้กฎหมายเพื่อปิดปากนักศึกษา และอาจใช้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วย
“ถ้าใช้กฎหมายดำเนินคดีก็อาจเรียกว่า กฎหมายปิดปาก (SLAPP) เป็นการตีความกฎหมายของคนอ่านหนังสือไม่แตก เป็นการทำงานกระบวนการสันติภาพ แต่ไม่เข้าใจกระบวนการสันติภาพที่ตัวเอง (คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้) ไปประชุมร่วมมาตลอด 2 ปี หรือเป้าหมายของเขา (ทหาร) อาจจะอยากล้มนักการเมืองที่จะมายุบ กอ.รมน.” น.ส. อัญชนา กล่าว
สำหรับเรื่องนี้ นายปิยพงษ์ พิมพลักษณ์ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้ว่า ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลควรชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
“พอพูดเรื่องแบ่งแยกดินแดน เราจะเห็นความโกรธ ความไม่พอใจมากมายเต็มไปหมด ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ก็ควรทำความเข้าใจกับสังคมต่อเรื่องนี้ให้ชัดเจน ขณะที่ ฝ่ายความมั่นคงก็ควรใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการเรื่องนี้ เพราะ การสอบถามความคิดเห็นของนักศึกษา คือการพูดคุยอย่างสันติวิธีของเยาวชนในพื้นที่ทางวิชาการ” นายปิยพงษ์ กล่าว
ในวันเดียวกัน คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.มายอ อ.ไม้แก่น และอ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง และ อ.กาบัง จ.ยะลา) โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2566
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ และคุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ ร่วมรายงาน