ตำรวจพบห้องเย็น 25 แห่ง ในปริมณฑล กักตุนหมูเกินที่กฎหมายกำหนด
2022.01.21
กรุงเทพฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบห้องเย็น 25 แห่งในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลวันศุกร์นี้ พบมีการกักตุนเนื้อหมูเกินที่กฎหมายกำหนด ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับเอกชนห้ามกักตุนสินค้าระหว่างที่รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาเนื้อหมูแพง ขณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจห้องเย็นหลายแห่ง พร้อมอายัดซากสุกรร่วมกว่า 400 ตัน เนื่องจากไม่พบเอกสารการเคลื่อนย้ายไปห้องเย็น
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หลังการประชุมร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พบเบาะแสที่เชื่อว่ามีบริษัทห้องเย็นที่อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดกฎหมายจึงได้นำกำลังลงตรวจ ซึ่งพบจำนวนหนึ่งกักตุนเนื้อหมูเกินกำหนด แต่ไม่ได้เปิดเผยปริมาณการกักตุน
“จากการสืบสวนทราบว่า มี 25 บริษัท ในจังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรสาคร ที่ประกอบธุรกิจห้องเย็น อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ในเรื่องการกักตุนเนื้อสุกรเกิน 5,000 กิโลกรัม โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าบางบริษัท มีจำนวนเนื้อสุกรเกินกว่ากฎหมายกำหนด บางรายอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง เนื่องจากเพิ่งได้ทราบระเบียบ ซึ่งจะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป หากพบว่าไม่ได้มีการแจ้งก็จะมีความผิด” พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ หุ่นมีทอง นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า “ผู้ครอบครอง สุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละ มีปริมาณตั้งแต่ 5000 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย มิฉะนั้นจะมีความผิดตาม ม.25 (3), (5) พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง”
โดยในวันศุกร์นี้ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยระหว่างการลงตรวจผักและผลไม้ ณ ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานีว่า ปัจจุบัน กรมการค้าภายในมีการตรวจสอบราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ โดยหากประชาชนพบเห็นการขายสินค้าราคาแพงสามารถแจ้งได้ที่กระทรวงพาณิชย์
“จากการลงพื้นที่ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักและผลไม้ขนาดใหญ่ ได้รับแจ้งว่า ราคาผักและผลไม้ยังเป็นปกติ… ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวน 10 ชุด ออกตรวจสอบพื้นที่ 50 เขต ทั่วกรุงเทพฯ เป็นประจำทุกวัน โดยกำชับให้ผู้ประกอบการมีการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด… ถ้าจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ” นายอาวุธ กล่าว
ในวันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติดตามปัญหาราคาสินค้าแพงอย่างใกล้ชิด และมีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามติดตามปัญหานี้เช่นกัน
“พลเอก ประยุทธ์ ติดตามการแก้ปัญหาราคาหมูแพง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการปัญหาเกี่ยวกับหมูทั้งระบบ… ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ผู้ครอบครองต้องจัดทำบัญชีคุมสินค้า แสดงปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา ทั้งนี้ หากพบเห็นว่า มีการฉวยโอกาสหรือฝ่าฝืนกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด” นายธนกร กล่าว
และในวันนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ กองสารวัตรและกักกัน สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร กรมปศุสัตว์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบการกักตุนซากสุกรในห้องเย็นหลายแห่ง โดยในจำนวนนั้น ได้ตรวจพบมีซากสุกร แต่ไม่พบเอกสารการเคลื่อนย้ายไปห้องเย็นดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดซากสุกรทั้งหมด จำนวน 441 ตัน
ส่วนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลาพบว่า มีซากสุกรคงเหลือในคลัง 201,650.90 กิโลกรัม โดยไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของซากสุกรได้ เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดซากสุกรไว้ ขณะเดียวกันที่ จังหวัดจันทบุรี ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นเอกชนแห่งหนึ่ง พบซากสุกรแช่แข็ง 267,650.62 กิโลกรัมซึ่งถือว่าผิดปกติเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ภายหลัง บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ได้มีแถลงการณ์ชี้แจงระบุว่า เนื้อสุกรแช่แข็งในจังหวัดสงขลาเป็นของบริษัท และเป็นการบริหารจัดการสินค้าคงคลังตามรูปแบบปกติของบริษัท
ตั้งแต่เริ่มปี 2565 ปัญหาสินค้าราคาแพงถูกพูดถึงในสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูแพง จากการสำรวจของเบนาร์นิวส์ พบว่า ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2564 หลายชนิด เช่น เนื้อหมู ปัจจุบัน กิโลกรัมละ 200-300 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 2564 กิโลกรัมละประมาณ 150 บาท, เบนซิน แก๊สโซฮอลล์ 95 ปัจจุบัน ประมาณลิตรละ 31 บาท ขณะที่ปีก่อนลิตรละ 24 บาท, ดีเซล บี 7 ปีนี้ ราคาประมาณลิตรละ 29 บาท ขณะที่ปีก่อนลิตรละ 25 บาท
ด้วยปัญหาราคาเนื้อหมูแพง วันที่ 6 มกราคม 2565 คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร) จึงได้กำหนดให้ ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัม ขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งสต๊อกให้กรมการค้าภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาในทุก 7 วัน โดยเริ่มวันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยหากใครไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ รวมทั้งได้มีการสั่งห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นจากปัจจุบัน จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2565