ปานปรีย์ระบุชาติอาหรับพร้อมช่วยเจรจาฮามาสปล่อยตัวประกันไทย

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2023.11.03
กรุงเทพฯ
ปานปรีย์ระบุชาติอาหรับพร้อมช่วยเจรจาฮามาสปล่อยตัวประกันไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย หารือกับ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน นายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน ระหว่างการพบกันที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ วันที่ 31 ตุลาคม 2566
แฮนด์เอาท์/รอยเตอร์

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยในวันศุกร์นี้ว่า ได้หารือกับรัฐบาลกาตาร์ อิยิปต์ และอิหร่าน ซึ่งทั้งสามประเทศระบุว่า พร้อมช่วยเจรจาให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวแรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

นายปานปรีย์ แถลงข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศ สรุปผลการหารือกับตัวแทนรัฐบาลประเทศอาหรับ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงความเป็นไปได้ในการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 23 คน ระหว่างการสู้รบอิสราเอล-ฮามาส

“ประเทศกาตาร์ อียิปต์ แล้วก็อิหร่าน เราถือว่าเป็นมิตรประเทศของเรา ประเทศทั้งสามประเทศนี้ก็แสดงท่าทีที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือประเทศไทยอย่างเต็มที่ ขอร้องให้ทั้งสามประเทศช่วยเจรจาเพื่อให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด เขาก็บอกว่าจริง ๆ แล้วในขณะนี้มันก็อยู่ในการสู้รบ ก็อยากให้ประเทศไทย สนับสนุนในเรื่องของการจะให้มีการหยุดยิงโดยเร็ว ถ้ามีการหยุดยิงโดยเร็ว โอกาสที่จะปล่อยตัวประกันก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น” นายปานปรีย์กล่าว

นายปานปรีย์ เปิดเผยว่า นอกจากพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ประเทศกาตาร์แล้ว ยังได้พูดคุยกับ นายซามิห์ ฮัสซัน ชุกรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อียิปต์ และนายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อิหร่าน โดยชี้แจงต่อทั้งสามคนว่า แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส

“ชี้แจงว่า แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร คนที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย แล้วก็ไปทำมาหากินอยู่ที่อิสราเอลเพื่อที่จะมีเงินเดือนมีรายได้ส่งกลับมาให้พี่น้องที่อยู่ในประเทศไทย เพราะฉะนั้น กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับในเรื่องการเมือง ความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้นเลย… นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการต่างประเทศของกาตาร์ เขาเชื่อว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรก ซึ่งฟังดูก็รู้สึกสบายใจขึ้น” นายปานปรีย์ ระบุ

นายปานปรีย์ ชี้แจงว่า หากมีการปล่อยตัวประกันคนไทย รัฐบาลได้ประสานกับขอใช้เส้นทางผ่านประเทศอิยิปต์ในการรับตัวคนไทยกลับแล้ว

เมื่อวันพุธ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องการปล่อยตัวประกันเช่นกัน

“นายกฯ อิสราเอลบอกว่าเสียใจกับการที่มีคนไทยเสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ท่านยืนยันว่าจะพยายามทำอย่างเต็มความสามารถที่จะช่วยเหลือตัวประกันของไทยให้ออกมาได้ด้วยความปลอดภัยและเร็วที่สุด” นายเศรษฐา ระบุ

ขณะที่ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้เดินทางไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มฮามาส เปิดเผยในวันพุธว่า “เขา (ฮามาส) ขอให้ผมเรียนกับญาติพี่น้องของผู้ที่ถูกจับทั้งหมดว่า คนเหล่านี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี คนเหล่านี้ไม่เดือดร้อน แต่หากว่าเขากำหนดวันเวลาที่จะปล่อย เขาเกรงว่าระเบิดที่มาจากฝ่ายคู่ต่อสู้จะทำให้เกิดอันตราย เพราะฉะนั้นเขารอจังหวะว่าจังหวะใดที่เหมาะสมเขาจะทำการปล่อยทันที เขาให้คำมั่นสัญญา”

ด้าน ผศ. ปิยพงษ์ พิมพลักษณ์ นักวิชาการ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้ว่า การเจรจากับประเทศอาหรับอื่นๆ เพื่อให้ช่วยส่งสัญญาณถึงฮามาสอาจมีความล่าช้า และส่งผลกระทบด้านลบได้เช่นกัน

“เราไม่รู้ว่าฮามาสต้องการให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในหรือไม่ ซึ่งถ้าเขาไม่ต้องการ ก็อาจทำให้การช่วยเหลือทำได้ยากขึ้น หากวิธีที่ดำเนินการไปแล้วไม่สำเร็จ รัฐบาลควรหาแนวทางใหม่ เช่น อาจทำผ่านองค์กรต่างประเทศ องค์กรการกุศล” ผศ. ปิยพงษ์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เริ่มขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 หรือวันซิมหัต โทราห์ (Simchat Torah) อันถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวยิว กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดเและกำลังภาคพื้นดินโจมตีใส่อิสราเอล และจับกุมตัวประกันทั้งคนอิสราเอลและต่างชาติไว้ ทำให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยอาวุธทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน การสู้รบที่เกิดขึ้นทำให้มีทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายพันคน

กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ระบุว่า ก่อนการสู้รบมีคนไทยในอิสราเอลประมาณ 3 หมื่นคน ในนั้นมีประมาณ 5 พันคนทำงานในพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซา ณ ปัจจุบัน มีคนไทยเสียชีวิตจากการสู้รบ 32 คน บาดเจ็บ 19 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 23 คน มีแรงงานที่ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยแล้วร่วม 8 พันคน

ปานปรีย์ ยืนยันเหยื่อจีนเทาในเมียนมาปลอดภัยดี

นายปานปรีย์ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า คนไทย 162 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือโดยรัฐบาลเมียนมา จากขบวนการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตของกลุ่มทุนจีนสีเทา ในเมืองเล้าก์ก่าย พื้นที่สู้รบระหว่างกลุ่มว้าและรัฐบาลเมียนมา ปัจจุบัน ปลอดภัยดีและรอเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศ

“ประสานกับเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา และเอกอัครราชทูตไทยประจำปักกิ่งประเทศจีน รวมทั้งกงสุลไทยประจำคุนหมิง ตอนนี้ทราบว่า ทั้ง 162 คนปลอดภัย และอยู่ในความดูแลของเมียนมา ส่วนการเดินทางตอนนี้ทางรัฐบาลเมียนมายังไม่อนุญาต เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับการอันตรายในช่วงนี้ ถ้า 162 คน ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยก็จะไปทางประเทศจีน​ซึ่งเราได้ประสานไว้แล้ว” นายปานปรีย์กล่าว

ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิถุนายน และตุลาคม 2566 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนให้คนไทยระมัดระวังจะถูกหลอกไปทำงานในประเทศเมียนมา ผ่านการประกาศหางานออนไลน์ ซึ่งจะมีการรับสมัครงานและให้เดินทางเข้าไปยังเมียนมาผ่านชายแดนฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระทั่งมีการเปิดเผยว่า มีคนไทยกว่า 100 คนตกเป็นเหยื่อ กระทั่งในเดือนตุลาคม 2566 รัฐบาลเมียนมาสามารถช่วยเหลือคนไทยออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยได้

คุณวุฒิ บุญฤกษ์ ในเชียงใหม่ ร่วมรายงาน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง