ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวไทยเพิ่มอีก 4 คน
2023.11.25
กรุงเทพฯ

ในวันอาทิตย์นี้ เจ้าหน้าที่ไทยยืนยันว่า กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวคนไทยชุดที่สองอีกจำนวน 4 คน ออกมาจากฉนวนกาซา หลังจากที่ได้ปล่อยชุดแรกออกมา 10 คน เมื่อก่อนหน้านี้ พร้อมรายงานว่ายังมีตัวประกันชาวไทยอย่างน้อย 18 คน ที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่
กลุ่มหัวรุนแรงฮามาสที่ครอบครองดินแดนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้ปล่อยตัวคนไทยชุดแรก พร้อม ๆ กับตัวประกันชาติอื่นรวม 24 คน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่ฮามาสและอิสราเอลเริ่มการยุติยิงชั่วคราวเป็นเวลา 4 วัน และได้ทยอยปล่อยตัวเพิ่มขึ้น แม้จะมีรายงานว่าจะยุติการปล่อยตัวชั่วคราว จนกว่าขบวนรถขนส่งสิ่งของอุปโภคบริโภคสาธารณูปโภคและสิ่งของจำเป็นจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปในฉนวนกาซาได้
“กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟว่า ชาวไทยกลุ่มที่สอง จำนวน 4 คน ได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว และถูกนำตัวไปตรวจสุขภาพยังศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่งในอิสราเอล ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้แจ้งให้ครอบครัวในประเทศไทยทราบในทันทีแล้ว” เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศกล่าวในวันอาทิตย์นี้
“นอกจากนั้น ทางสถานทูตไทยได้รับรายงานว่ามีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ซึ่งหมายความว่าหลังจากการปล่อยตัวในวันนี้แล้ว ยังมีตัวประกันเหลืออยู่อีกประมาณ 18 คน ทางการไทยจะคงยังพยายามประสานความช่วยเหลือให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย” กระทรวงการต่างประเทศระบุ
สำหรับตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัว มีรายชื่อดังนี้ 1. นัฐพร อ่อนแก้ว, 2. คมกฤษ ชมบัว, 3.อนุชา อ่างแก้ว และ 4. มณี จิระชาติ
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์แสดงความยินดีกับทางครอบครัวผู้ได้รับการปล่อยตัว และระบุว่า จากการตรวจร่างกายในเบื้องต้น “ทุกคนสุขภาพดี ไม่มีใครต้องการการรักษาพยาบาลเร่งด่วน, ทุกคนพูดคุยและเดินได้ปกติ” และระบุว่า ทั้งสี่คนเดินทางไปที่โรงพยาบาล Shamir Medical Center (Assaf Harofe) ที่เดียวกันกับคนไทยอีก 10 คน เพื่อรับการดูแลทางการแพทย์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ระบุว่า มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล ประมาณ 30,000 คน ส่วนใหญ่ในภาคเกษตรกรรม ทั้งนี้ยังมีคนไทยประมาณหนึ่งในสามที่ยังไม่เดินทางกลับประเทศ
ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา อิสราเอลและฮามาส ได้ยุติการสู้รบเป็นเวลา 4 วัน เพื่อให้สามารถส่งเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับชาวปาเลสไตน์กว่าสองล้านคน ที่ตกอยู่ใต้การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล หลังจากที่กองกำลังฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลด้วยจรวดหลายพันนัด ขณะที่กองกำลังภาคพื้นข้ามรั้วฉนวนกาซาเข้ามาโจมตีเจ้าหน้าที่และพลเรือนอิสราเอลจนเสียชีวิตกว่า 1,300 ราย
ในตอนปลายเดือนตุลาคม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปหารือกับรัฐบาลกาตาร์ และอียิปต์ เพื่อประสานความช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย ขณะที่นายอารีเพ็ญ อุตรสินทร์ ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา ก็ได้เดินทางไปพูดคุยกับแกนนำฮามาสเช่นกัน
หลังจากที่ฮามาสโจมตีอิสราเอล สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการโจมตีแล้วประมาณ 13,000 คน ตามตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ขณะที่คาดว่ามีผู้สูญหายราวหกพันคน
ในระหว่างการหยุดยิง อิสราเอลมีข้อตกลงที่จะปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ ส่วนฝ่ายฮามาสยินยอมปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลและต่างชาติ ที่มีทั้งเด็กและผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม นายเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า จะดำเนินการโจมตีกลุ่มนักรบฮามาสต่อไปหลังจากสิ้นสุดการหยุดยิง เพื่อกำจัดอำนาจทางทหารของกลุ่มฮามาสที่ครองอำนาจในฉนวนกาซามากว่า 16 ปี
ความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ย้อนหลังไปหลายทศวรรษ โดยหลังจากที่อังกฤษและฝ่ายพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว อังกฤษได้สัญญาที่จะหาที่ตั้งประเทศให้กับชาวยิว
ในปี ค.ศ. 1947 องค์การสหประชาชาติ ได้มีมติตอบสนองความต้องการของอังกฤษ ซึ่งได้เลือกดินแดนของปาเลสไตน์ มีการแบ่งออกเป็นรัฐอาหรับและรัฐยิว แล้วก่อตั้งประเทศอิสราเอลขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เหตุนี้ทำให้เกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอล ซึ่งยุติในปีถัดมา ดินแดนดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ รัฐอิสราเอล (Israel หรือ Jewish State), ฉนวนกาซา (Gaza Strip) อยู่ติดกับอียิปต์ และเขตเวสต์แบงค์ (West Bank) หรือดินแดนทางทิศตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน