ครบรอบ 45 ปี เหตุการณ์ ‘6 ตุลา’ คนรุ่นใหม่ยังคงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
2021.10.06
กรุงเทพฯ

ผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยกว่าหนึ่งพันคน ร่วมงานครบรอบการสังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยรุ่นใหม่ยังคงดำเนินการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเฉกเช่น “รุ่นพี่”
ในวันนี้เมื่อ 45 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจราว 8,000 นาย ได้ปิดล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ใช้อาวุธสงครามยิงใส่เพื่อสลายการชุมนุมของนักศึกษาราว 4,000 คน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย และบาดเจ็บอีก 67 ราย ตามการสรุปของทางการ โดยการชุมนุมครั้งนั้น เพื่อขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้บวชเป็นสามเณรแล้วเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย หลังจากถูกนักศึกษาชุมนุมขับไล่ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 จนต้องหนีไปอยู่ในต่างประเทศ
ในวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้จัดกิจกรรมแสดงภาพถ่ายเหตุการณ์ที่มีการทุบตีนักศึกษา พร้อมทำหุ่นจำลองผู้เสียชีวิตวางทั่วบริเวณหอประชุมใหญ่ และสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการสะท้อนภาพเหตุการณ์ในอดีต
ผู้จัดงานรำลึก 45 ปี 6 ตุลา 2519 วางหุ่นจำลองเหตุการณ์ที่นักศึกษาถูกสังหาร ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาพวันที่ 6 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
นายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุลเพื่อความเป็นส่วนตัว) ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ และกล่าวว่า ตนเองมีความประสงค์ในการจะร่วมสานการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง
“ผมอยากเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ตั้งนายกฯ รักษาการ ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นของประชาชนที่สถาบันฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อรัฐธรรมนูญ และนายกฯ จะมาจากประชาชนจริง ๆ สิ่งที่เด็กธรรมศาสตร์เขาเรียกร้องมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มันถูกต้องทั้งหมด” นายวิโรจน์ กล่าวต่อเบนาร์นิวส์
ด้าน นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ นักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารนักศึกษาเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ถึงปัจจุบัน ยังคงลอยนวลพ้นผิด และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
“เราปฏิเสธไม่ได้ว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสถาบันกษัตริย์ยังแนบแน่นกับกองทัพ ในปี 2499 มีการแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นมาตรา 112 การแก้ไขนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชนเลย ทำให้ตั้งแต่ 2499-2564 กฎหมายหมิ่นสถาบันฯ ยังมีอยู่มาถึงทุกวันนี้” นายเกียรติชัย กล่าวในการปราศรัย
ธัชพงษ์ "บอย" แกดำ (เสื้อสีน้ำเงิน) ขณะปราศรัยต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมงานรำลึก 6 ตุลา 2519 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาพวันที่ 6 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
นายธัชพงษ์ “บอย” แกดำ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวในระหว่างการปราศรัยบนเวที หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ตราบใดที่ประเทศนี้ ยังมี ม.112 เราจะไม่สามารถชำระประวัติศาสตร์ได้เลย ฉะนั้นเราต้องยกเลิก ม.112”
หญิงสาวเดินกางร่มท่ามกลางสายฝน ผ่านใบปลิวที่มีทั้งข้อความและภาพถ่าย โปรยทั่วสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สังหารนักศึกษา 6 ตุลาคม 2519 ภาพวันที่ 6 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนพฤษภาคม 2557 และได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งในต้นปี 2562 ขณะนี้ ยังคงเผชิญกับการประท้วงของเยาวชนอย่างต่อเนื่องยาวนาน และในการประท้วงหลายครั้งมีการใช้อาวุธปะทะกัน จนได้รับบาดเจ็บทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายผู้ชุมนุม ซึ่งทำให้มีความกังวลว่าสถานการณ์อาจจะบานปลาย
ใบปลิวภาพคนทุบตีศพที่ถูกแขวนคอบนต้นมะขาม ที่ท้องสนามหลวง เมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ถูกโปรยบนสนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 6 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
ในวันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบพรรคไปเมื่อต้นปี 2563 กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เรียนรู้สิ่งใด ๆ จากเหตุการณ์รุนแรงเอาเสียเลย
“ประการแรก คือผู้ที่สั่งการไม่เคยต้องรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็น 6 ตุลา 19, พฤษภา 35, พฤษภา 53 วัฒนธรรมแบบนี้ต้องหมดไป ต้องไม่มีการสังหารหมู่ประชาชนเกิดขึ้นอีก คืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้สูญเสีย”
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในทหารระดับบังคับบัญชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการประท้วงของคนเสื้อแดงที่ยึดพื้นที่ของกรุงเทพชั้นใน เพื่อขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 โดยการสลายชุมนุมครั้งดังกล่าว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 94 ราย
นักกิจกรรมเผาหุ่นฟาง เพื่อรำลึกถึงนักศึกษาที่เสียชีวิตจากการจับกุมและรุมทำร้าย ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ภาพวันที่ 6 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)