ราชทัณฑ์ปลด 5 เจ้าหน้าที่ฐานทุจริตในเรือนจำ
2022.03.04
กรุงเทพฯ

กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยในวันศุกร์นี้ว่า ได้ดำเนินการลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 5 คน เพราะพัวพันกับยาเสพติด และการทุจริตอื่น ๆ ในเรือนจำ
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า มติไล่ออก-ให้ออก-ปลด เป็นผลจากการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ (อ.ก.พ.) ครั้งที่ 3/2565 เพื่อลงโทษข้าราชการในสังกัดที่ทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ที่เสื่อมเสีย จนทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
“ที่ประชุมมีมติลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดวินัยจำนวนทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบด้วยไล่ออกจากราชการ 2 ราย ปลดออกจากราชการ 1 ราย และให้ออกจากราชการ 2 ราย” นายอายุตม์ กล่าว โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อ-นามสกุลของผู้ที่ถูกลงโทษ
นายอายุตม์ ระบุว่า กรณีที่หนึ่ง เจ้าหน้าที่หนึ่งราย ถูกปลดออกจากราชการเนื่องจากถูกตำรวจจับกุมข้อหาเสพยาไอซ์ และอยู่ระหว่างเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู, กรณีที่สอง เจ้าหน้าที่หนึ่งราย ถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้าถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดแต่ยังเสพยาบ้าขณะการบำบัด จึงถูกไล่ออก โดยทั้งสองกรณีนี้ นับเป็นกรณีประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
เจ้าหน้าที่รายที่สาม ทำผิดด้วยการติดต่อและเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องขัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการลดวันต้องโทษจำคุก จึงไล่ออกจากราชการ, กรณีที่สี่ มีพฤติการณ์นำสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของไม่อนุญาตเข้ามาในพื้นที่เรือนจำ ให้ออกจากราชการ และรายที่ห้า มีการติดต่อญาติผู้ต้องขังเพื่อเป็นสื่อในการทวงหนี้ค่ายาเสพติด ให้ออกจากราชการ
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา กรมราชทัณฑ์ได้ ไล่ออก-ให้ออก-ปลด เจ้าหน้าที่แล้วอย่างน้อย 19 ราย เพื่อล้างภาพลักษณ์ที่ติดลบ
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่า ความพยายามแก้ปัญหาภายในกรมราชทัณฑ์ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
“เรือนจำควรมีการแก้ปัญหาและป้องกันปัญหาที่ดีกว่านี้ในระยะยาว เพราะอย่างที่ทราบกันดี คือ ปัญหาในเรือนจำมีมาอย่างยาวนาน การลักลอบใช้โทรศัพท์ในเรือนจำ การใช้ยาเสพติด รวมทั้งการทำร้ายผู้ต้องขังก็มีอยู่เป็นประจำ จากการได้รับการร้องเรียนของกรรมการสิทธิฯ” นางอังคณา กล่าวกับเบนาร์นิวส์
“ราชทัณฑ์อาจต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์ กระทำผิดหรือการทุจริตในเรือนจำให้ถึงที่สุด และเข้มงวดกับการรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการหาผลประโยชน์ หรือการเกิดปัญหาอื่น ๆ ในอนาคต” นางอังณา ระบุ
ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 กรมราชทัณฑ์ได้ไล่เจ้าหน้าที่ออกจากราชการ 5 ราย ปลดออกจากราชการ 4 ราย และให้ออกจากราชการ 1 ราย ส่วนในเดือนธันวาคม 2564 ได้ไล่ออก 4 ราย โดยสาเหตุของการไล่ออก ประกอบด้วย การปล่อยปละละเลยให้ผู้ต้องขังหลบหนี, ทุจริตหรือเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ต้องขังเพื่ออำนวยความสะดวกภายในเรือนจำ, ทำร้ายร่างกายผู้ต้องขัง, ลักลอบนำโทรศัพท์เข้าไปให้ผู้ต้องขัง, นำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปภายในห้องขัง และกระทำผิดกฎหมายอาญา เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ระบุว่า ประเทศไทยมีเรือนจำทั่วประเทศไทย 143 แห่ง มีผู้ต้องขังกว่า 3.8 แสนราย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ซึ่งรับผิดชอบดูแลเรือนจำ ประมาณ 1.2 หมื่นรายเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ 1 ราย ต้องดูแลผู้ต้องขังประมาณ 26 คน