ตำรวจถูกยิงศีรษะเจ็บสาหัส 1 นาย ที่แยกดินแดงกลางดึกวันพุธ
2021.10.07
กรุงเทพฯ

ตำรวจแถลงในวันพฤหัสบดีนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนถูกยิงที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ในระหว่างการตรวจค้นแฟลตดินแดง เพื่อหาตัวผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง
ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เตือนว่ากลุ่มผู้ประท้วงทะลุแก๊ส อาจจะถูกปราบปรามในวันข้างหน้า เพราะไม่ได้สร้างมวลชนหรือสร้างความชอบธรรมในพื้นที่สาธารณะ
ในการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดงในคืนวันพุธที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เริ่มเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุมประมาณสี่ทุ่ม ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนหลบหนีเข้าไปในแฟลตดินแดง โดยได้มีเจ้าหน้าที่ คฝ. ติดตามไปด้วย จนกระทั่งหลังห้าทุ่ม ได้มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนทะลุหมวกเข้าที่ขมับด้านซ้าย
จากวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก โปลิสไทยแลนด์ ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ คฝ. ขณะตรวจพื้นที่ชั้นล่างของแฟลต มีเสียงดังคล้ายอาวุธปืนสามครั้ง จากนั้น มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งนอนอยู่กับพื้น คือ สิบตำรวจตรี เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน
ในวันพฤหัสบดีนี้ พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก และรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวในการแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามเร่งนำผู้ที่ก่อเหตุยิง ส.ต.ต. เดชวิทย์ มาลงโทษ โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุม
“เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับซ้าย ได้รับบาดเจ็บนั่นคือ สิบตำรวจตรี เดชวิทย์ ได้ส่งไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นเรียบร้อย ได้นำเศษกระสุนออกมาจากศีรษะ ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังเรื่องของการติดเชื้อในสมอง และเรื่องระบบการหายใจ เบื้องต้น” พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าว
“จากการผ่าตัดแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กระสุนปืนนั้นทำจากวัตถุที่เป็นทองแดง แต่อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญจะพิสูจน์ว่าเป็นอาวุธปืนชนิดใด” พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าวเพิ่มเติม
พล.ต.ต. จิรสันต์ ระบุว่า เฉพาะในคืนวันพุธที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ชุมนุมได้ 28 ราย แต่ไม่ได้ระบุว่ามีใครเกี่ยวข้องกับการยิงสิบตำรวจตรีหรือไม่ แต่ระบุว่าจากการชุมนุมในกลางปี 2563 ถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเขตกรุงเทพฯ 620 คดี ส่งฟ้องแล้ว 78 คดี และอยู่ระหว่างการสอบสวน 342 คดี
ด้าน นางมะลิวัลย์ เล็ทเทนสัน มารดาของ ส.ต.ต. เดชวิทย์ กล่าวกับ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ลูกชายทำอาชีพตำรวจมา 2 ปี รักในอาชีพนี้มาก รู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วง ส.ต.ต. เดชวิทย์ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันได้ประณามการกระทำของผู้ชุมนุม ซึ่งใช้ความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของทางราชการ
ส.ต.ต. เดชวิทย์ เป็นเจ้าหน้าที่รายที่สองที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 ส.ต.ต. ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ หรือหมู่เบส ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่ใบหน้า ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกดินแดง ปัจจุบัน กลายเป็นคนทุพพลภาพ
ก่อนหน้านี้ ในคืนวันที่ 16 สิงหาคม มีเด็กชายอายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนมิตรไมตรี ตรงข้ามกับ สน. ดินแดง ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระสุนทะลุคอและหัวกระสุนฝังในก้านสมอง ทำให้มีอาการโคม่า และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. บัญชีพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะทำงานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เชื่อว่า กลุ่มมือปืนมีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ ตำรวจได้จับตัวนายชุติพงศ์ ทิศกระโทก อายุ 28 ปี ที่ต้องหมายศาลในข้อหาพยายามฆ่า และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ใช้หนังสติ๊กยิงระหว่างการประท้วง ในกรุงเทพฯ วันที่ 27 กันยายน 2564 (เอเอฟพี)
ทะลุแก๊สชี้ ต้องการให้รัฐบาลฟังเสียงเรียกร้อง
ในวันพุธที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) มีการเสวนาเรื่อง From battlefield Din Daeng to student protests and car mobs (จากสมรภูมิดินแดง สู่การประท้วงของนักเรียน และการชุมนุมด้วยรถยนต์) นายโต (สงวนชื่อและนามสกุล) ตัวแทนกลุ่ม “เยาวรุ่นทะลุแก๊ส” ได้กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมองการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเกินกว่าเหตุ
“แฟลตดินแดงที่ตำรวจได้ขึ้นไปค้น หรือจับกุมเด็ก ๆ ที่หลบอยู่บด้านบน ผมมองว่ามันเป็นสถานที่คนพักผ่อน ทำไมต้องไปคุกคามขนาด จุดประสงค์ของกลุ่มของผมต้องการให้ภาครัฐยุติความรุนแรงต่อประชาชนทุกรูปแบบ” นายโต กล่าว
“ผมหวังไว้ตลอดว่า จะมีผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่รัฐมาเจรจากับเด็ก ๆ ได้พูดสิ่งที่เราต้องการหรือสิ่งที่เราเรียกร้อง ซึ่งที่ผ่านมาเรายังไม่ได้รับโอกาสเหล่านี้” นายโต กล่าวเพิ่มเติม และระบุว่า ผู้ประท้วงยังต้องการให้พลเอก ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่ง
ด้าน นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ นักร้องเพลงแร็พในนาม “อีเลฟเว่นฟิงเกอร์” กล่าวในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า
“ความรุนแรงที่ทวีคูณขึ้น ผมมองว่ามันเป็นเชิงสันติวิธี แต่เป็นสันติวิธีขั้นสุดท้ายแล้ว ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงที่แท้จริง เราเผาสิ่งของที่รัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนในการซื้อมา เหมือนการบอกกับรัฐบาลว่าเราต้องการที่จะให้รัฐบาลฟังเสียงของเรา”
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก. ลายจุด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งร่วมการเสวนาเดียวกันกลับรู้สึกกังวลกับความรุนแรงที่ทวีขึ้น รวมทั้งปัญหาเรื่องคดีความที่เด็กต้องเผชิญ
“ผมคิดว่าสิ่งที่กลุ่มทะลุแก๊สละเลย และไม่ได้ทำคือ การทำงานมวลชน หรือการสร้างแนวร่วม หรือการสร้างความชอบธรรมในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งตอนนี้กลุ่มทะลุแก๊สได้สูญเสียพื้นที่ตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ... เมื่อนั้นรัฐจะถึงเวลาที่เขาจะปฏิบัติการเต็มรูปแบบ รัฐกำลังรอวันนั้นอยู่” นายสมบัติ กล่าว
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2564 มีการชุมนุมอย่างน้อย 1.9 พันครั้ง มีผู้ชุมนุม 1,161 ราย ถูกดำเนินคดี และในนั้น 210 ราย เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน