ภารกิจคืนปักษานักล่าสู่พงพี
2023.06.15
กรุงเทพฯ
นกเค้า หรือเหยี่ยว คือ นักล่าที่มีความสำคัญกับระบบนิเวศ ในฐานะสัตว์ปีกที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหาร คอยคุมปริมาณสัตว์เลื้อยคลานและแมลง แต่เมื่อมนุษย์รุกรานเข้าสู่ป่า นกนักล่าจึงกลายเป็นเหยื่อของความเจริญ ทั้งถูกทำร้าย และได้รับผลกระทบจากมนุษย์
เมื่อนักล่ากลายเป็นเหยื่อ สัตว์แพทย์จึงต้องยื่นมือเข้ามาโอบอุ้มบริบาลพวกมัน เพื่อให้แข็งแรงเพียงพอ และคืนสู่ธรรมชาติในฐานะนักล่า รักษาสมดุลแห่งธรรมชาติเช่นที่ควรจะเป็น
ลูกนกล่าเหยื่อ ได้รับการดูแลอย่างดีภายใน 'วอร์ด' อันเปรียบเสมือนห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใจกลางต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศโดยรอบมิได้ต่างอะไรกับแหล่งธรรมชาติย่อม ๆ ใกล้เมืองหลวง เป็นสถานที่ตั้ง 'หน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ' คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
"เขาจะอยู่กันเป็นครอบครัว การโค่นต้นไม้ของคนเพื่อสิ่งปลูกสร้าง อาจหมายถึงการทำลายบ้านของนกที่อาศัยทำรังอยู่ เสียงและแรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักร อาจทำให้แม่นกตกใจหนี หนีไม่รอดก็พบแต่ซากแม่ที่ตายไปแล้วเหลือเพียงลูกตัวเล็ก ๆ ที่ยังอยู่ในโพรง บางตัวต้องอยู่โดยไม่มีแม่คอยดูแล" รติวรรณ สิทธิบุตร์ สัตวแพทย์ประจำหน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ กล่าว
เหยี่ยว นกฮูก นกเค้ากู่ นกเค้าแมว นกเค้าโมง นกเค้าจุด หรือนกแสก แม้จะเป็นนกนักล่าก็จริง แต่การที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็กทำให้พวกมันเดียงสามาก จนบางครั้งทักษะพื้นฐานก็ยังไม่สามารถเรียนรู้เองได้ หน้าที่ในการฝึกฝนการบิน การกินอาหาร และการล่าเหยื่อ เพื่อให้พร้อมที่จะกลับไปทำหน้าที่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างมีศักดิ์ศรี จึงเป็นภาระสำคัญของนักบริบาลที่นี่
แม้ลูกนกบางตัวที่ได้รับการรักษาจะมีหน้าตาน่ารักและเชื่องคน แต่ทุกตัวจำเป็นที่จะต้องถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพราะ “นกล่าเหยื่อทุกตัวนี้มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดูแบบถาวรของมนุษย์ย่อมส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของสัตว์ บางตัวเราแก้นิสัยเชื่องคนไม่ได้ ก็ไม่ปล่อย เพราะหากปล่อยไปก็จะบินไปอยู่กับคน เสี่ยงต่อการถูกนำไปเลี้ยงหรือถูกทำร้าย” รติวรรณ กล่าว
การปล่อยนกกลับสู่ธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์สามประการคือ ผ่านการฝึกบิน ผ่านการฝึกล่าเหยื่อ และผ่านการตรวจพฤติกรรม (ว่าเชื่องคนหรือไม่)
ปัจจุบัน นกล่าเหยื่อของไทยทุกตัวอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ประชาชนทั่วไปไม่สามารถมีไว้ในครอบครอง การครอบครองนกเหล่านี้จะเข้าข่ายผิดมาตรา 9 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น แม้จะน่ารักหรือน่าเลี้ยงเพียงใด ที่ที่เหมาะสมสำหรับนกนักล่าเหยื่อที่สุด ก็ยังเป็นป่าธรรมชาติ ไม่ใช่ในกรง