'สะพานมิตรภาพ' เส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมียนมา

ภิมุข รักขนาม สำหรับเรดิโอฟรีเอเชีย
2024.03.01
th-ss-myanmar-border1.jpeg

ชายคนหนึ่งเดินผ่านด้านบนของป้อมทหารเมียนมา ที่อยู่ใต้สะพานมิตรภาพเชื่อมระหว่างเมียวดีกับแม่สอด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border2.jpeg

ทหารเมียนมาลาดตระเวนใต้สะพานมิตรภาพ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border3.jpeg

เยาวชนชาวเมียนมานั่งดูโทรศัพท์มือถือริมฝั่งแม่น้ำเมย ชายหนุ่มชาวเมียนมาหลายรายว่ายข้ามแม่น้ำมายังฝั่งไทยเมื่อวันก่อน ชาวบ้านบอกกับเรดิโอฟรีเอเชีย วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border4.jpeg

ชายชาวเมียนมาเดินข้ามสะพานมิตรภาพที่เชื่อมระหว่างแม่สอดกับเมียวดี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border5.jpeg

เด็กนักเรียนชายชาวกะเหรี่ยงเดินข้ามสะพานเชื่อมหมู่บ้านวาเล่ย์ ในประเทศเมียนมา กับบ้านวาเล่ย์ ชื่อเดียวกันที่อยู่ในฝั่งไทย วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border6.jpeg

แม่ชาวกะเหรี่ยงพาลูกไปโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ โดยมีทหารไทยเฝ้ารักษาการณ์ที่สะพานฝั่งไทย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เธอบอกว่าโรงเรียนในประเทศไทยดี และการพูดภาษาไทยเป็นผลดีต่อลูก ๆ ของเธอ (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border7.jpeg

เณรน้อยตีฆ้องบอกชาวบ้านว่าพระภิกษุอาวุโสกำลังเดินมารับบิณฑบาต วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border8.jpeg

หญิงสูงวัยตักบาตรพระภิกษุอาวุโสในหมู่บ้านวาเล่ย์ ในเมียนมา เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

th-ss-myanmar-border9.jpeg

ลูกค้าสตรีขณะใช้ธนบัตรไทยซื้อของหวานกับแม่ค้าชาวกะเหรี่ยงในเมียนมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 (ภิมุข รักขนาม/เรดิโอฟรีเอเชีย)

สำหรับชาวเมียนมาแล้ว สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาที่ข้ามแม่น้ำเมย เป็นเส้นทางสำคัญมากว่าสองทศวรรษแล้ว เพราะมีผู้คนจะข้ามจากเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งเมียนมา เข้ามาทางอำเภอแม่สอดในฝั่งไทยทุกวัน เพื่อทำงาน เรียนหนังสือ ค้าขาย แม้กระทั่งหาหมอ

ที่ผ่านมาสะพานและทางหลวงเอเชียที่เชื่อมต่อกัน ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมาตั้งแต่เปิดใช้งานในปี 2540 ต่อมาเมื่อเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army) ใกล้ชายแดน ทำให้ในบางครั้งสะพานก็ต้องปิดตัวลงเป็นระยะ

เมื่อเดือนมกราคมปี 2566 สะพานได้เปิดใหม่อีกครั้ง หลังจากปิดมา 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด แต่หลังจากเปิดได้ไม่นานก็ต้องปิดอีกครั้ง เนื่องจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลทหารเข้ามามีอำนาจในปี 2564

อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว การค้าข้ามแดนก็ต้องหยุดอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารได้สงบลงชั่วคราวที่ชายแดนแห่งนี้ และชาวเมียนมาได้เริ่มข้ามแดนกันอีกครั้ง

ผู้คนจากฝั่งเมียนมากำลังใช้เส้นทางอื่นเข้าสู่ประเทศไทย โดยข้ามแม่น้ำเมย หรือที่รู้จักในภาษาเมียนมาว่า “แม่น้ำต่องยิน ใกล้กับสะพาน โดยจำนวนผู้ข้ามแดนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศกฎหมายบังคับหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 18 ปี ต้องถูกเกณฑ์ทหาร

หนึ่งในผู้พยายามหนีข้ามแดน บอกกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า “เขาไม่ต้องการฆ่าคนในกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกัน”

ทางการไทยได้วางลวดหนามไว้ตามแนวฝั่งแม่น้ำเมย เพื่อป้องกันการข้ามแม่น้ำเข้าไทย แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่สามารถขัดขวางผู้ที่พยายามหลบหนีข้ามฝั่งมาได้ก็ตาม

ห่างออกไปทางใต้ประมาณ 60 กิโลเมตรจากแม่สอด มีสะพานขนาดเล็ก เชื่อมต่อหมู่บ้านวาเล่ย์ของเมียนมากับหมู่บ้านวาเล่ย์ของไทย

วันนี้ ชาวบ้านในชุมชนกะเหรี่ยงสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ระดับหนึ่ง ซึ่งแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปี 2565 เมื่อเครื่องบินรบและทหารเมียนมาทิ้งระเบิดในพื้นที่ เผาบ้านเรือน และส่งผลให้ผู้คนนับพันต้องอพยพออกจากพื้นที่

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง