รัฐยกเลิกเคอร์ฟิว 17 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
2021.10.22
กรุงเทพฯ

นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในกรุงเทพฯ และพื้นที่นำร่องอีก 16 จังหวัด เป็นการเร่งมาตรการก่อนการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงไฮซีซันในปีนี้ หลังจากที่ได้ยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วจาก 46 ประเทศ เพราะเห็นว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวย่านใจกลางเมือง ยังมีความเห็นเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมีความกังวลว่า การเปิดการท่องเที่ยวในขณะที่ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เรือนหมื่นคนต่อวัน จะทำให้เกิดการติดเชื้อกระโดดสูงขึ้น ขณะที่บางรายเห็นว่า รัฐบาลทำให้สถานการณ์ดูรุนแรงเกินจริง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในประกาศที่ตีพิมพ์ทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา วันศุกร์นี้ว่า “ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ แต่ไม่ได้กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว... ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 30 ตุลาคม 2564”
เพราะสถานการณ์โคโรนาไวรัส 2019 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่คงที่มาระยะหนึ่ง และมีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติมากขึ้น
จังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ที่ยกเลิกเคอร์ฟิว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี ระยอง และเชียงใหม่ เป็นต้น
ประเทศไทยอยู่ใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และได้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย เป็นเวลากว่าหนึ่งปี ซึ่งบุคคลในวงการการท่องเที่ยวระบุว่า มาตรการของรัฐทำให้ประเทศขาดรายได้ไปราว 1.5 ล้านล้านบาท
ก่อนหน้านี้ พลเอก ประยุทธ์ ได้กล่าวต่อประชาชนว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเปิดประเทศรองรับการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ในช่วงที่กำลังเป็นโอกาสทองในช่วงไฮซีซั่นในปีนี้ และได้เพิ่มจำนวนประเทศที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้จาก 10 ประเทศ เป็น 46 ประเทศ เพราะชาติอื่น ๆ ได้เปิดประเทศแข่งกับไทยเช่นเดียวกัน
“ตอนนี้ ผมคิดว่าในสถานการณ์ใหม่ ถ้าเราต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยให้มาก เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่เดือดร้อนกันอย่างมากมานาน เราจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าเร็วกว่านั้น” พลเอก ประยุทธ์ กล่าวทางเฟซบุ๊ก
นายฝน เรกเก้ นั่งรอลูกค้าที่หน้าร้านถักผมของตัวเอง ริมถนนข้าวสาร ในวันที่นักท่องเที่ยวต่างชาติบางตา วันที่ 22 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
ด้าน เจ้าของร้านถักผม Bee hair shop ย่านถนนข้าวสาร บอกว่า ตนเองยังกังวลว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเร็วเกินไปอาจจะทำให้มีการระบาดหนักระลอกใหม่ เพราะปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูงถึงวันละเกือบหมื่นคน
“ผมฉีดวัคซีนแล้วแต่ก็ยังกลัวอยู่ ก็คิดว่ารัฐบาลควรเตรียมประเทศให้พร้อมก่อนแล้วค่อยเปิดก็ได้ เพราะถ้ามีโควิดอีกก็ปิดประเทศอีก แย่เลย คิดว่าคงอีกเป็นปีกว่าข้าวสารจะกลับมาคึกคักเท่าเดิม หรืออาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้” นายฝน เรกเก้ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ในส่วนของรายได้นั้น นายฝนบอกว่า ตนเองเปิดร้านที่ถนนข้าวสารมา 20 ปี มีรายได้เฉลี่ยในช่วงที่ยังไม่มีโควิด-19 ระบาดราว 5,000 บาทต่อวัน แต่เมื่อมีการระบาด โดยยิ่งเฉพาะในช่วงที่มีเคอร์ฟิว ทำให้แทบจะไม่มีลูกค้า
น.ส. เนตรนภิส วรศิริ ยืนอยู่หน้าบาร์ในร้าน Hemlock Art Restaurant ถนนพระอาทิตย์ วันที่ 22 ตุลาคม 2564 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
ด้าน เจ้าของร้าน Hemlock Art Restaurant บนถนนพระอาทิตย์ มีความเห็นต่างออกไป โดยเชื่อว่า รัฐบาลมีส่วนในการสร้างความหวาดกลัวเรื่องโควิด-19 ให้ประชาชนจนเกินจริง
“รัฐบาลควรเปิดประเทศ เปิดร้านอาหารตั้งนานแล้ว และ 1 พฤศจิกายน นี้ควรจะให้ขายแอลกอฮอล์ในร้านได้ด้วยซ้ำ เพราะคุณจะให้ต่างประเทศเข้ามา คุณก็ควรเปิดไปเลย เรามองว่าที่ผ่านมา รัฐบาลทำให้ประชาชนกลัวโควิดมากเกินไป ทำให้คนไม่กล้าออกไปไหน” น.ส. เนตรนภิส วรศิริ เจ้าของร้าน กล่าว
น.ส. เนตรนภิส ระบุว่า ตนเปิดร้านมา 27 ปี ที่ถนนพระอาทิตย์ มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เมื่อรัฐบาลสั่งปิดร้านอาหารหลายรอบเพราะโควิด-19 ร้านจำเป็นต้องเปลี่ยนมาขายอาหารแบบใส่กล่อง ต้องลดราคาเพื่อการแข่งขัน ในขณะที่ต้นทุนเท่าเดิม ทำให้รายได้ของร้านลดลงราว 90 เปอร์เซ็นต์
“เราคิดว่าถ้ายังให้ปิดอีก หรือปิดต่อไปอีกสัก 10 เดือน เราไม่น่าจะไหวแล้ว ไม่รู้เราจะทนกับความไม่แน่นอนนี้ไปทำไม กับการบริหารที่ไม่ได้เรื่องของรัฐบาล” น.ส. เนตรนภิส กล่าวเพิ่มเติม
รัฐคาดหวังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ล้านคน ภายในไตรมาสที่หนึ่ง ปี 65
ในวันเดียวกันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประมาณการแผนการเปิดประเทศของรัฐบาลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แบบไม่ต้องกักตัว โดยคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาฟี้นตัว โดยในไตรมาสที่ 4/2564 และ ไตรมาสที่ 1/2565 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) เชื่อว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านคน และปีหน้าจะมีรายได้ 1 ล้านล้านบาท หรือครึ่งหนึ่ง ของปี 2562
สำหรับประเทศที่ประชาชนสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัวมี 46 ประเทศ อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สวีเดน ญี่ปุ่น และซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
ในวันศุกร์นี้ ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,810 ราย เสียชีวิต 66 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 1.83 ล้านราย และเสียชีวิตสะสม 1.85 หมื่นราย โดยสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว 69.21 ล้านโดส ฉีดครบสองเข็มแล้ว 27.7 ล้านราย