จุรินทร์ขอโทษประชาชน กรณีปริญญ์ต่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงขอโทษประชาชน และลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ ในวันอังคารนี้ เพื่อรับผิดชอบต่อข่าวการล่วงละเมิดทางเพศของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ล่าสุด มีผู้เสียหายถึง 14 ราย ที่เข้าแจ้งความเอาผิดนายปริญญ์แล้ว

นายจุรินทร์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคจะไม่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และจะไม่แทรกแซงกระบวนการตามกฎหมาย

“ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขอโทษในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น… เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ผมก็จะได้ขอลาออกจากประธานคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนี้ (คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ)… พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง และขณะเดียวกัน พรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงใด ๆ ในกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่ากระบวนการยุติธรรมจะทำหน้าที่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง” นายจุรินทร์ กล่าว

“จุดยืนของพรรคที่ผมต้องขออนุญาตเรียนให้ทราบตรงนี้ประการที่หนึ่ง พรรคมีจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการคุกคามทางเพศ พรรคมีความชัดเจนในการต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว รวมทั้งต่อต้านการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งความแตกต่างระหว่างเพศ” นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติม

การลาออกของนายจุรินทร์ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 เฟซบุ๊กเพจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ได้เปิดเผยว่า มีหญิงสาว (สงวนชื่อและนามสกุล) รายหนึ่ง เข้าไปปรึกษาว่า ถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งต่อมาปรากฎชื่อ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อายุ 44 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยในกรณีดังกล่าว กระทั่ง 14 เมษายน 2565 นายปริญญ์ได้แถลงข่าวลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย แต่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศทั้งหมด

“ผมยังปฏิเสธว่า ข้อกล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันกระทบกับภาพลักษณ์ การทำงาน เราต้องรับผิดชอบ เคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนก่อนตรงนี้ ผู้ใหญ่ก็รับทราบการตัดสินใจที่ผมจะขอลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์” นายปริญญ์ กล่าว

ต่อมา นายษิทรา เปิดเผยว่า มีผู้ที่เคยถูกนายปริญญ์ล่วงละเมิดหลายคนติดต่อเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี จึงได้นำตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี นำมาสู่การออกหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายปริญญ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2565 เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

กระทั่งในวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ นำตัวนายปริญญ์ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง และคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตาม ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายปริญญ์ โดยให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 7 แสนบาท

ล่าสุดในวันจันทร์ที่ผ่านมา นายษิทรา ได้พาตัวผู้เสียหายบางรายเข้าแจ้งความเอาผิดนายปริญญ์ที่ สน.ลุมพินี

“ได้ข้อมูล (ว่านายปริญญ์ ก่อเหตุ) ตั้งแต่ 2013 (พ.ศ. 2556) ทำปี 2015 ทำอยู่เรื่อยมา จนเมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมายังมีที่มาร้อง การกระทำแบบนี้ก็เข้าข่ายของคนเป็นโรคจิตแล้วแหละ แต่โรคจิตในที่นี้ เอาไปเป็นข้ออ้างในการที่จะขอลดโทษไม่ได้นะมันคนละคดีกัน” นายษิทรา ระบุ

ขณะที่ผู้เสียหาย (สงวนชื่อและนามสกุล) รายที่ 13 ซึ่งเข้าแจ้งความกับตำรวจ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่อ้างว่าถูกนายปริญญ์ละเมิด

“เราคิดว่าเป็นออฟฟิศก็ขึ้นไป พอเข้าไปห้องแรกก็ล็อคประตูเลย แล้วหันไปทางด้านซ้ายมือ เป็นห้องนอน แล้วเขาก็ผลักเราเข้าห้องนอน แล้วก็กระทำชำเรา ยื้อกันอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง อ้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนึงจะคิดได้ ก็ไม่รอด ที่หนูบอกว่า หนูจะแจ้งความ เขาก็หัวเราะแบบว่า หึ ใครจะไปช่วยเธอได้ ใครจะเชื่อเธอ เธอรู้ไหมฉันเป็นใคร พ่อฉันเป็นใคร” ผู้เสียหายรายดังกล่าว ระบุ

ต่อกรณีที่เกิดขึ้น น.ส. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “หากเลือกที่จะมีเพศสัมพันธ์ต้องมาจากการยินยอมของทั้งสองฝ่าย ประเด็นนี้เราต้องสร้างทัศนคติให้สังคมเข้าใจให้ถูกต้อง… เราจะไม่ปล่อยให้มีพฤติกรรมนักการเมืองไม่ใช่ของเพียงแค่ในพรรค เราจะลุกขึ้นมาตรวจสอบ เราจะเดินหน้าขจัดปัญหาการคุกคามทางเพศร่วมกับภาคสังคม”

ด้าน พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ตำรวจจะดำเนินคดีนี้อย่างโปร่งใส และไม่ให้มีกระบวนการใดแทรกแซงได้

“คนก็จับตาดูอยู่แล้ว ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ คนมองอยู่.. แต่มันก็ต้องทำ ต้องไปหา จะได้ไม่ได้ก็เดี๋ยวว่ากัน เราก็ทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานไป ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครมาถอนคำร้องทุกข์นะ” พล.ต.อ. สุวัฒน์

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต. ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยหลังเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมของนายปริญญ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดก่อเหตุระบุว่า ปัจจุบัน มีผู้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว 14 คดี เป็นคดีในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด ยกเว้น 1 คดีในพื้นที่ สภ.เชียงใหม่ 1 คดีในพื้นที่ สภ.เพชรบุรี และ 1 คดี เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ

โดยนายปริญญ์ ระบุวันที่ 15 เมษายน 2565 ว่าคดีที่ตนเองถูกกล่าวหาว่า ข่มขืนเยาวชนอายุ 18 ปี ที่ประเทศอังกฤษ ในปี 2546 ได้ตัดสินไปแล้วว่า ตนเองไม่มีความผิด

“พรุ่งนี้ (20 เมษายน 2565) จะมีความชัดเจนว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ในคดีไหนบ้าง ส่วนการเข้าตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุ มีประโยชน์ต่อรูปคดี ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปดูสถานที่ ถ่ายภาพเก็บหลักฐานแล้ว ส่วนสถานที่อื่นยังไม่ได้ขอหมายค้นเพิ่มเติม” พล.ต.ต. ไตรรงค์ กล่าวในวันอังคารนี้

ทั้งนี้ การข่มขืนกระทำชำเรา ถือว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 277-276 โดยหากถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริง อาจมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 8 หมื่นบาทถึง 4 แสนบาท โดยหากเป็นการกระทำต่อผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี และไม่ได้เป็นภรรยาหรือสามีของตน จะมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต

นายปริญญ์ เคยดำรงตำแหน่งบริหารในบริษัทเอกชนด้านการเงินหลายแห่ง และเคยเป็นที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นกรรมาธิการคณะกรรมาธิการวิสามัญการศึกษาผลกระทบ CPTPP รัฐสภา ในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน เป็นบุตรชายของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO)