ผู้ต้องหาประกอบระเบิด ทำแผนประกอบคำสารภาพชี้จุดส่งมอบระเบิด และจุดที่ตนมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ระเบิด

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายยูซูฟู ไมไรลี ผู้ต้องหาที่เชื่อว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดและนำระเบิดไปส่งมอบให้กับมือวางระเบิดเสื้อเหลืองตามภาพทีวีวงจรปิด ในคดีวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทร ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพที่บริเวณย่านราชประสงค์ และหัวลำโพง ในวันพุธ (9 ก.ย. 2558) นี้

พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัวนายยูซูฟู ไมไรลี (Yusufu Mieraili) ไปชี้จุดต่างๆ ที่ตัวผู้ต้องหาเดินทางไปเพื่อการส่งมอบระเบิดให้กับชายเสื้อเหลือง ที่กล้องวีดีโอวงจรปิดจับภาพได้ว่าเป็นผู้นำเป้ที่บรรจุระเบิดไปวางไว้ที่ม้านั่งบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ก่อนเกิดระเบิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต 20 ราย และบาดเจ็บประมาณ 125 ราย

โดยนายยูซูฟู ไมไรลี ถูกกองกำลังบูรพาจับกุมตัวได้ที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา และถูกตั้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครองครองในภายหลัง ขณะนี้ ถูกฝากขังโดยอำนาจศาลมีนบุรี แต่ยังไม่ได้มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติม

ในวันนี้ นายยูซูฟู ได้ชี้จุดต่างที่บริเวณหน้าวัดปทุมวนาราม แยกราชประสงค์ ห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ และบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง

พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวในการแถลงข่าวในเวลาถัดมาว่า นายยูซูฟูให้การว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้นำระเบิดไปส่งให้ชายเสื้อเหลืองที่สะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยได้แลกเปลี่ยนกระเป๋าสะพายกัน จากนั้น นายยูซูฟูได้นั่งสามล้อรับจ้างไปลงที่วัดปทุมวนาราม ใกล้แยกราชประสงค์ ส่วนชายเสื้อเหลืองได้นั่งรถสามล้อไปยังสี่แยกราชประสงค์เพื่อวางระเบิด

“ในจุดนี้ เป็นจุดที่นายยูซูฟูระบุว่าเป็นจุดที่ทั้งสองคนได้นัดพบกันเพื่อสลับกระเป๋าสะพาย ที่คาดว่ามีบรรจุระเบิดบรรจุอยู่ กระเป๋าใบนั้นมีน้ำหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม นำมาจากย่านหนองจอก จึงคาดว่าน่าจะมีระเบิดอยู่ภายใน” พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่าแก่ผู้สื่อข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผบ.ตร. บอก ไม่ใช่การก่อการร้ายสากล

พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ว่า เหตุที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นผู้บงการ และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ต้องหาชาวต่างชาติมีสัญชาติใดบ้าง

“เรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นชนชาติใด... พวกที่มาก่อเหตุ บางครั้งเขาไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ รู้จักหน้าแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร ชื่ออะไร แต่มันก็ซัดทอดกันไป หรือแม้แต่ตัวผู้ต้องสงสัยที่เราควบคุมตัวไว้นี่ เรายึดพาสปอร์ตได้ พาสปอร์ตก็ปลอม และสิ่งที่เขาพูดนี่ ว่าเขาเป็นชนชาตินั้น ชนชาตินี้ จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้วันหนึ่งพูดอย่าง วันนึงตอบอีกอย่าง ถ้าเราไม่มีพยานหลักฐานอะไรไปบ่งบอก ไปมัดตัวเขาแน่นๆ จนเขาดิ้นไม่หลุด หรือปฏิเสธไม่ได้นี่ เขาถึงจะพูด” พล.ต.อ. สมยศ กล่าว

ส่วนที่มีคำถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวเนื่องกับการก่อการร้ายสากลหรือไม่นั้น พล.ต.อ. สมยศกล่าวว่า “มันไม่ใช่การก่อการร้ายข้ามชาติหรอกครับ แต่มันเป็นเหตุก่อความรุนแรง สร้างสถานการณ์ก่อความรุนแรง แต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับการก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะการก่อการร้ายข้ามชาติต้องมีประเด็น หรือข้อบ่งบอกถึงการก่อการร้ายข้ามชาติ มันจะต้องมีองค์กร มีกระบวนการ...ยังไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน”

มีรายงานข่าวท้องถิ่นโดยอ้างอิงคำพูดของ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่า จากการสอบสวนนายยูซูฟู ไมไรลี นายยูซูฟู ได้กล่าวพาดพิงถึงชายชาวต่างชาติที่ชื่อ อิซาน หรือ อาบูดูซาตาเออร์ ดาบูดูเรห์มาน ว่าเป็นคนโยงใยการก่อเหตุการณ์ระเบิด แต่ พล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบจากการสอบสวนว่า มีชายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้บงการ ซึ่งได้ออกเดินทางไปบังคลาเทศหนึ่งวันก่อนเหตุระเบิด โดยใช้พาสปอร์ตจีน ทางการไทยได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลบังคลาเทศ ผ่านตำรวจสากล ในการค้นหาตัวชายผู้ต้องสงสัยที่ระบุว่าเป็นชาวต่างชาติ

เบนาร์นิวส์ได้สอบถามไปยังกรมตำรวจของบังคลาเทศ วันนี้ที่ 9 ก.ย. 2558 ซึ่งทางบังคลาเทศปฏิเสธว่าไม่ได้รับการร้องขอใด ๆ จากทางการไทยหรือตำรวจสากลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยบงการวางระเบิด กรุงเทพฯ "เรายังไม่ได้รับการร้องขอใดๆ จากตำรวจสากล หรือรัฐบาลไทย" นัซรุล อิสลาม ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการ กรมตำรวจ บังคลาเทศ กล่าวแก่ เบนาร์นิวส์

ชารีอาร์ ชารีฟ (Shahriar Sharif) มีส่วนในรายงาน