ตำรวจระบุผู้ต้องสงสัยในเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม เอราวัณ กรุงเทพฯ

โดย ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.08.18
TH-BOMBING-620 ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ หลังจากดูศพ ถึงกับล้มลงร่ำไห้คร่ำครวญเสียใจอย่างสุดพรรณนา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2558
เอเอฟพี

เมื่อวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ของชายผู้ต้องสงสัย ที่เชื่อว่าเป็นผู้วางระเบิด ในศาลท้าวมหาพรหม เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่หนักหน่วงที่สุด ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย

โดยภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในศาลพระพรหมเอราวัณ ผู้ต้องสงสัยเป็นชายร่างผอม สวมเสื้อยืดสีเหลือง เดินเข้ามา นั่งบนม้านั่ง และปลดกระเป๋าเป้ทิ้งไว้ แล้วจึงเดินออกจากศาลพระพรหม 15 วินาทีหลังจากนั้น ซึ่งวันเวลาที่แสดงบนกล้องวงจรปิดคือ 18:40 น. วันที่ 17 สิงหาคม

สิบห้านาทีให้หลัง ระเบิดถูกจุดชนวนขึ้นในศาลพระพรหมเอราวัณที่แออัด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และได้รับบาดเจ็บ 125 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดของศูนย์เอราวัณ/เครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. และสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างหนักหน่วงที่สุด ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย

“ผู้ชายเสื้อเหลืองคนนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น แต่เป็นคนวางระเบิด” พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวกับ สำนักข่าวเอพี

“วันนี้พบบุคคลต้องสงสัย ... เรากำลังติดตามชายผู้นี้” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าว

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์นี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่หนักหน่วงที่สุด ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย

"เคยมีเหตุระเบิดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมีแต่เสียง แต่ครั้งนี้ ตั้งใจทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์" พลเอก ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวเอพี "พวกเขาหวังทำลายเศรษฐกิจของเรา และการท่องเที่ยวของเรา"

ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุสัญชาติของผู้ต้องสงสัยได้ แต่จากรูปพรรณสัญฐาน บุคคลในคลิปไม่ใช่คนไทย

“เราไม่เคยพูดว่าเป็นชาวต่างชาติ ทุกประเด็น เราให้ความสำคัญเท่ากันหมด จนกว่าจะมีพยานหลักฐานพิสูจน์ได้แน่ชัด” พลเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ระเบิดคุกคามซ้ำสอง

ผู้ที่อาศัยในกรุงเทพฯ ยังคงตื่นตระหนกขวัญผวาและเศร้าใจอย่างหนักจากเหตุการณ์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่หากต้องมาหวาดกลัว และตกใจอย่างแรงอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อช่วงกลางวันของวันอังคารนี้เอง มีคนขว้างระเบิดลงในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้กับท่าเรือสาทร ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีผู้โดยสารเรือข้ามฟากเป็นประจำ

แรงระเบิดตกจากที่สูงลงน้ำก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นและแรงน้ำพุ่ง พาเอาคนบริเวณนั้นวิ่งหนีกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สันนิษฐานว่าเป็นระเบิดชนิดเดียวกับเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นระเบิดไปป์บอมบ์เหมือนที่ใช้ในเมื่อคืน สะเก็ด ลูกปลาย มีลักษณะคล้ายคลึงกัน” พล.ต.ท. ประวุฒิกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้ และตรวจสอบวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ขณะเก็บรวบรวมหลักฐานทางกายภาพและกำจัดเศษซากจากแรงระเบิด อีกกว่าค่อนวัน ที่บริเวณศาลพระพรหม เอราวัณ วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2558

พันตำรวจเอกกำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ในขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุชนิดของระเบิดที่นำมาใช้ในการประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องได้

“ตอนนี้เรายังระบุไม่ได้ว่าดินระเบิดที่ใช้เป็นแบบทีเอ็นที หรือซี-4 แต่น้ำหนักประมาณ 3-5 ปอนด์” พ.ต.อ กำธรกล่าว

โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี เป็นชาวต่างชาติมากกว่าครึ่ง เป็นชาวจีน 3 ราย ชาวฮ่องกง 2 ราย ชาวอินโดนีเซีย 1 ราย ชาวมาเลเซีย 4 ราย ชาวสิงคโปร์ 1 ราย และคนไทย 6 ราย อีก 3 ราย ยังไม่สามารถระบุได้

ส่วนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อระเบิดชาวมาเลเซียนั้น ทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน – เป็นชายชาวมาเลเซีย  พร้อมด้วยลูกสาวอายุ 4 ปี พี่เขย และแม่ของภรรยา ตามที่กระทรวงต่างประเทศมาเลเซียแจ้งมา ส่วนภรรยา เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ในช่วงค่ำ คณะโฆษกรัฐบาล ได้รายงานทางโทรทัศน์เพิ่มเติมว่า ยังเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 67 คน ส่วนอาการนั้น ทางคณะโฆษกไม่ได้แจ้งให้ทราบ

“รัฐบาลไทยและผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในแถลงการณ์ที่ถ่ายทอดสดในช่วงบ่ายของวันอังคาร

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีบุคคล กลุ่มบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่อประเทศ ยังมีการเคลื่อนไหวซึ่งอาจจะเป็นไปเพื่อหวังผลทางการเมือง ทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หรือเพื่อเหตุผลอื่นใดก็ตาม รัฐบาลจะดำเนินการจับตัวผู้สงสัยให้ได้โดยเร็วที่สุด” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง