ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ
2015.08.19

ในวันนี้ 19 สิงหาคม 2558 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัยตามภาพสเก๊ตช์ของตำรวจ โดยระบุว่าเป็นชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมทั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า และข้อหาอื่นตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
พลโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตามเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องสงสัยด้วยกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าสถานที่สุดท้ายที่เห็นเป็นย่านศาลาแดงที่ผู้ต้องสงสัยได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่ง
“ดูจากหน้าตาเป็นลูกครึ่งหรือต่างชาติ ผิวขาว น่าจะเป็นกึ่งๆ แขกขาว รูปร่างไม่ใหญ่ สูงแค่ 170 กว่าๆ... ผู้ต้องสงสัยจ้างมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่แยกศาลาแดง ยังไม่ปรากฏว่าเดินทางไปต่างประเทศ” พลโทประวุฒิ กล่าว
พลเอกสมบศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามแก่ผู้สื่อข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่าจะให้ความสำคัญไปที่การตรวจสอบหลักฐานในกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพราะตนไม่เชื่อว่าชายเสื้อเหลืองจะลงมือกระทำเพียงคนเดียว แต่ใครก็ตามที่เข้าไปในศาลพระพรหมเวลานั้น หรือก่อนห้วงเวลานั้น จะต้องมีการตรวจสอบย้อนหลังไปอีกหนึ่งถึงสามวัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะคนร้ายจะลงมือกระทำความผิดเขาต้องมีการวางแผนมาดูสถานที่
นอกจากนั้น พลตำรวจเอกสมยศ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งรางวัลนำจับ สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสให้แก่ทางการ จนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้
โดย ณ สวนสนประดิพัทธ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเตือนผู้ต้องสงสัยผ่านทางสื่อมวลชนว่า อาจจะตกอยู่ในอันตราย เพราะอาจจะโดนตัดตอนได้
“อยากจะฝากบอกใครที่อยู่ใกล้ ๆ ผู้ต้องสงสัย ให้รีบมาพบเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นพวกเดียวกัน หรือคนละพวกก็แล้วแต่ ผมคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในอันตราย” พลเอกประยุทธ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
ต่อกรณีที่มีการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ก่อเหตุคืออุยกูร์ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า
“ก็คุยกันว่าถ้าเป็นเรื่องต่างประเทศก็คือเรื่องนั้น ผมไม่อยากเอ่ยชื่อ จะเป็นไปได้ไหม ในโลกนี้ที่กลุ่มนี้แก้แค้น เกิดที่ไหนบ้าง รุนแรง ไม่รุนแรง ปกติมันต้องมีการแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นคนทำ นี่สามวันแล้ว ก็ไม่มี แต่ถ้ามาอ้างตอนนี้ ผมก็ไม่เชื่อแล้ว เราอยู่ตรงกลางดีกว่านะ มาเลือกข้างใดข้างหนึ่ง อย่าไปชี้ชัดกันเอง”
นายกรัฐมนตรี ได้หันมาเน้นถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นเรื่องที่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองว่า
“หากระเบิดครั้งนี้ มาจากเรื่องการเมือง ประเทศเข้าสู่ภาวะอันตรายแล้ว และหากคนเหล่านี้ยังอยู่ อันตรายจะเกิดขึ้นอีก จะต้องมาเพ่งเล็งฝ่ายการเมืองด้วยว่าปฏิบัติตัวอย่างไร เรียบร้อยหรือเปล่า”