นายมะแซ อูเซ็ง แกนนำบีอาร์เอ็น เสียชีวิตแล้วในมาเลเซีย

นายมะแซ อูเซ็ง เจ้าของทฤษฎีบันได 7 ขั้น ในการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยญาติและเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวกล่าวในวันพุธ (11 พ.ค. 2559) นี้

เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากที่มีอาการป่วยมาตั้งแต่ปี 2555 นายมะแซ อูเซ็ง ได้เสียชีวิตลงด้วยโรควัณโรคปอด และเบาหวาน โดยที่ญาติได้มีการทำพิธีฝังศพภายใน 24 ชั่วโมง ในประเทศมาเลเซีย ตลอดที่ผ่านมา ขณะที่มะแซอูเซ็งป่วยนั้น ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง

ในวันเดียวกันนี้ ญาติของนายมะแซ ได้ยืนยันว่านายมะแซ อูเซ็ง ได้เสียชีวิตลงแล้วจริง และได้ทำพิธีฝังศพที่ประเทศมาเลเซีย ไม่ได้นำศพกลับมาทำพิธีที่บ้านเกิดที่ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส

ในปี 2547 นายมะแซ ถูกรัฐบาลไทยออกหมายจับในข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน และอั้งยี่ ซ่องโจร เคยมีรางวัลนำจับกว่า 10 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการให้ปล้นอาวุธปืนจำนวน 413 กระบอกจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บางหน่วย ได้พยายามประสานงานผ่านญาติของนายมะแซ ให้กลับมาสู้คดีในประเทศไทย และกลับมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่บ้านเกิด และยังมีรายงานว่านายมะแซ ได้เขียนจดหมายตอบกลับมายังเจ้าหน้าที่หน่วยดังกล่าว เพื่อขอบคุณ แต่ปฏิเสธที่จะกลับประเทศไทย

นอกจากนั้น พลโทนักรบ บุญบัวทอง กล่าวว่าแก่เบนานิวส์ เมื่อก่อนหน้าที่จะถูกโยกย้าย พ้นหน้าที่เลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขว่า ทางคณะฯ ได้ส่งรายชื่อนายมะแซ อูเซ็ง และนายสะแปอิง บาซอ ซึ่งเป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ในจังหวัดยะลา ผู้มีอิทธิพลทางความคิดต่อชาวไทยเชื้อสายมลายู ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปให้ทางผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยฯ เพื่อให้ทั้งสองเข้าร่วมการพูดคุยด้วย แต่ทั้งสองไม่ได้เข้าร่วม

ประวัตินายมะแซ อูเซ็ง

นายมะแซ เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2502 อายุได้ 57 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 33/1 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เคยรับราชการเป็นทหารเกณฑ์ ในค่ายเสนาณรงค์ สังกัด ร้อย.5 พัน.1 ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ในระหว่างรับราชการทหารมีส่วนร่วมในการปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) และในระหว่างปี 1979-1982 หลังจากกลายเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน นายมะแซได้รับการฝึกก่อวินาศกรรม และการรบแบบกองโจรจากโรงเรียนนายร้อยประเทศลิเบีย

ต่อมาได้ เป็นแกนนำใหญ่ ซึ่งควบคุมปฏิบัติการในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส ในอดีตเคยเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง และยังเป็นประธานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บูกิต อ.เจาะไอร้อง บ้านเกิด รวมทั้ง เป็นเลขาธิการมูลนิธิศูนย์ตาดีกานราธิวาส หรือปูซากา (PUSAKA) ซึ่งเป็นการจัดตั้งกลุ่มครูสอนศาสนาเป็นเครือข่าย ขยายฐานมวลชน แนวร่วมสมาชิก โดยผ่านกิจกรรมซึ่งแอบแฝงการปลุกระดมมวลชนเอาไว้ ก่อนหลบหนีเข้าประเทศมาเลเซีย

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักนายมะแซ อูเซ็ง ในปี พ.ศ. 2547 สามารถตรวจยึดเอกสาร “แผนปฏิวัติ 7 ขั้นตอน” เพื่อปลดปล่อยปาตานี

กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้ดำเนินการทางลับโดยการใช้แผนบันได 7 ขั้น มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยการชักชวนเยาวชนทั้งในและนอกโรงเรียนเข้าร่วมงานได้เป็นจำนวนมาก และเรียกตัวเองว่า “Pejuang” แปลว่า “นักต่อสู้ของกลุ่มเยาวชนกู้ชาติปัตตานี” (Pemuda Merdeka Patani) ขององค์กรกู้ชาติปัตตานี (Pejuangan Merdeka Patani) กลุ่มนักสู้เหล่านี้ เป็นนักต่อสู้รุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกอบรมบ่มเพาะ สร้างจิตสำนึกให้เคียดแค้นชิงชังคนต่างศาสนา มีอุดมการณ์การต่อสู้เพื่อชาติ ศาสนา มาตุภูมิ เคร่งครัดศาสนา เป็นที่ยอมรับของสังคม และมีความกระหายที่จะต่อสู้ตามแนวทางศาสนา (ญีฮาด) และอิสรภาพอันชอบธรรมเพื่อรัฐปัตตานี

นายมุสตอฟา (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “น่าจะเสียชีวิตจริง ตามที่มีการรายงาน เพราะทราบข่าวมาว่า มะแซ อูเซ็ง ได้ป่วยมานานแล้ว ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมเจรจา ช่วงที่มีการเจรจา ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งที่ตอบรับมาแล้วว่ายินดีเข้าร่วมเวทีเจรจาด้วยครั้งนั้น”