ตำรวจไทยส่งคืนมาเลเซีย รถยนต์ 20 คัน ถูกขโมยเข้าไทย
2018.01.09
กรุงเทพฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ส่งมอบรถยนต์ซึ่งถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซีย คืนให้กับทางการมาเลเซีย 20 คัน ในวันอังคาร (9 มกราคม 2561) นี้ โดยมีตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียเป็นผู้รับมอบ ซึ่งตัวแทนจากมาเลเซียระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศทางผ่านในการโจรกรรมรถ เพื่อนำไปส่งยังประเทศลาว เวียดนาม และกัมพูชา
การส่งมอบรถยนต์ครั้งนี้ จัดขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นายสีวัน อาหมัด นัดมุดิน โม ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เป็นตัวแทนส่ง-รับมอบ ถือเป็นการส่งมอบ ครั้งที่ 5 นับจากการเริ่มความร่วมมือระหว่างกันในปี 2558
พล.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การส่งมอบรถยนต์ครั้งนี้ เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของตำรวจไทยและมาเลเซีย ถือเป็นการส่งมอบครั้งที่ 5 จำนวน 20 คัน รวมมูลค่า 30 ล้านบาท
“อันนี้ก็จะเป็นประโยชน์ ที่ประเทศเพื่อนบ้านสองประเทศ ไทยและมาเลเซียนั้น จะมีการปฎิบัติงานด้านการป้องกันอาชญากรร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความปลอดภัยจากอาชญากรรมทั้งปวง ทั้งนี้เป็นที่ทราบอาชญากรรมเดี๋ยวนี้มีความเจริญก้าวหน้า แล้วก็มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ดังนั้นความร่วมมือในการปฎิบัติของทั้งสองประเทศจึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ที่เราต้องให้ความจริงใจและจริงจังในการทำงานร่วมกันต่อไป” พล.ต.อ.วิทยากล่าว
“มาเลเซียได้ให้ความร่วมมือกับทางประเทศไทย ในการสืบสวนจับกุม คดีที่เกี่ยวข้อง เช่น การหลบหนีเข้าเมือง การค้ามนุษย์ แล้วก็ความผิดทางด้านการก่อการร้ายภาคใต้มาโดยตลอด และปัจจุบันนี้ ได้มีการพูดคุยกันเรื่องปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซียไว้จำนวนหนึ่งก็จะได้ประสานการปฎิบัติร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป” พล.ต.อ.วิทยากล่าวเพิ่มเติม
รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย สามารถจับกุมและยึดคืนได้ 20 คันในครั้งนี้ ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อหรูราคาแพง และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป เช่น รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ออดี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู โตโยต้า เป็นต้น โดยมูลค่าที่ สตช. แจ้งนั้น เป็นมูลค่าที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถ้าขายในประเทศไทย หรือส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน และรวมกับมูลค่าภาษีอาจทำให้มีราคาสูงขึ้นไปอีกกว่าเท่าตัว
ด้าน นายสีวัน อาหมัด นัดมุดิน โม ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือกับประเทศมาเลเซีย โดยเชื่อว่า การร่วมมือระหว่างกันจะช่วยให้การทำงานแก้ไขปัญหาอาชญากรรมของทั้งสองประเทศดีขึ้น
“ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย โดยเฉพาะท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ช่วยมาเลเซียในการตามหารถที่ถูกขโมยมา และอย่างที่ทุกท่านทราบ การที่เราได้รับรถยนต์ 20 คัน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ทั้ง 2 ประเทศมีการร่วมมือลักษณะนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2558 มีรถเกือบ 100 คัน ที่เราได้รับคืนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ประเทศไทยเป็นทางผ่านของรถจากประเทศมาเลเซีย เพื่อจะส่งไปยังประเทศอื่น เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม” นายสีวัน อาหมัดกล่าวเพิ่มเติม
ประเทศไทยได้ร่วมมือกับมาเลเซีย ในการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมรถยนต์ มาตั้งแต่ปี 2558 โดยตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมและยึดรถยนต์ ซึ่งถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียได้แล้ว 95 คัน รวมมูลค่ากว่า 75 ล้านบาท โดยในการติดตามจับกุมนั้น สตช. โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 1-9 ได้ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น และกรมศุลกากร แก้ไขปัญหาโดยกำหนดให้มีกลไกที่นำมาซึ่งการจับกุม และการส่งมอบรถยนต์
ในแต่ละปี ประเทศมาเลเซีย มีสถิติการโจรกรรมรถยนต์สูงถึง 1.6 หมื่นคัน โดย 30 เปอร์เซนต์ของรถที่ถูกโจรกรรมในมาเลเซียถูกส่งมายังประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศอื่น และบางส่วนถูกสวมทะเบียนปลอม และขายในตลาดค้ารถในประเทศไทย ซึ่งรถที่ถูกโจรกรรมเหล่านี้จะมีมูลค่าการซื้อขายที่ถูกกว่า รถนำเข้าตามกฎหมาย ราว 100-200 เปอร์เซนต์ เนื่องจากภาษีรถยนต์นำเข้าของประเทศไทยสูงถึง 300 เปอร์เซนต์