ประชาชนชายแดนใต้ร่วมพันคน แห่ชมกิจกรรมแข่งรถออฟโรดไทย-มาเลเซีย ก่อนรายอ อีดิ้ลอัฎฮา
2015.09.22

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558 ที่ สนามแข่งรถออฟโรด บ้านสะท้อน ตำบลสะท้อน อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นาง พาตีเมาะ สะดียามู ผู้อำนวยการ สำนักบริหารส่วนกลาง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมออฟโรดสานสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย พร้อมด้วยนายอัสอารี บินฮารูน ประธานชมรมรถออฟโรด รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นาย หะยีซุลกิฟลี บินสาและ ผู้อำนวยการ สำนักข่าว RTM รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นายวิรัตน์ วิศพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะท้อน นายสมัคร กุลกนก กำนันตำบลสะท้อน รวมทั้ง ส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมงานเป็นจำนวนมากร่วม 1000 คน
กิจกรรมครั้งนี้ คณะออฟโรด จากประเทศมาเลเซียกว่า 115 คัน พร้อมสมาชิก 390 คน แปรขบวนรถเป็นตัวอักษร “We love Thailand” เพื่อแสดงความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ระหว่างสองประเทศ จากนั้น ทางคณะออฟโรดไทย-มาเลเซีย ได้เข้าร่วมการแข่งขันรถออฟโรด เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และจะออกเดินทางต่อเพื่อร่วมเทศกาลรายอ อีดิ้ลอัฎฮา ที่ประเทศลาว ซึ่งทางคณะออฟโรด จะมีกิจกรรม เชือดวัวกุรบาน (ตามพิธีกรรมของศาสนาอิสลาม) จำนวน 5 ตัว เพื่อแจกจ่ายให้กับเด็กกำพร้าและเด็กยากจน ในวันที่ 24 กันยายน 2558 นี้ ที่แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
นาง พาตีเมาะ สะดียามู ผอ. สำนักบริหารส่วนกลาง ศอ.บต. กล่าวว่า มหกรรมออฟโรดสานสัมพันธ์ ไทย-มาเลย์ เป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศมีความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี และความสามัคคีที่จะร่วมพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขตแดนไทย-มาเลย์ โดยการเผยแพร่วัฒนธรรมต่างๆ ทั้งในระหว่างเดินทางร่วมกิจกรรมออฟโรด ในแต่ละพื้นที่ จากต้นทาง รัฐกลันตัน จนถึง หาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ได้ร่วมทำกิจกรรมแปรขบวนรถเป็นตัวอักษร และ ร่วมกิจกรรมแข่งขันออฟโรด ร่วมกับ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ก่อนจะออกเดินทางสู่ประเทศลาว เพื่อให้ทันร่วมกิจกรรม เทศกาลรายออีดิ้ลอัฎฮา ที่แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
“ถือเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่า ทั้งสามประเทศนี้ มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน ทั้งเป็นสมาชิกสมาคมอาเซียนร่วมกันแล้วอย่างไม่เป็นทางการ” นาง พาตีเมาะ กล่าว
ศอ.บต. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชมรมออฟโรด จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา พร้อมให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวก ตลอดเส้นทางจากประเทศไทย ถึงประเทศลาว ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในการทำกิจกรรมในครั้งนี้
นายอัสอารี บินฮารูน ประธานชมรมรถออฟโรด รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในการร่วมมือระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับคณะออฟโรดมาเลเซีย ทำให้สมาชิกออฟโรดมาเลเซีย ได้รับรู้ว่า ปลายด้ามขวานของประเทศไทยน่าอยู่ และรักประเทศไทย เหมือนคนไทยที่มาร่วมชมการแปรตัวอักษร
“รู้สึกประทับใจ สำหรับการต้อนรับเป็นอย่างดี และอบอุ่นมากอย่างที่ไม่เคยสัมผัสจากประเทศอื่น ยอมรับว่าก่อนที่จะมา รู้สึกไม่ดีนักต่อประเทศไทย จากข่าวที่เห็น โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่เมื่อได้สัมผัส ทำให้เข้าใจ และเห็นใจคนพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะ ภายหลังที่ได้แปรตัวอักษร We love Thailand รู้สึกว่าเป็นประวัติศาสตร์ของคณะออฟโรดมาเลเซีย ที่ได้ร่วมมากันเป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกคนที่มาบอกว่า รักประเทศไทย เป็นประเทศที่สวยงาม กลับไปจะบอกกับทุกคนว่า ที่นี่มีอะไรดีกว่าที่คิดมาก”
พร้อมกันนี้ คณะออฟโรดยังได้ถือโอกาสเยี่ยมชมพื้นที่ประวัติศาสตร์ และบริจาคเงินจำนวนกว่า 50000 บาท สำหรับเด็กกำพร้าและยากจน ณ สถาบันปอเนาะ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน นายซุลกิฟลี บินสาและ ผอ.สำนักข่าว RTM จากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจที่ได้มาร่วมกิจกรรมออฟโรด เสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย และได้สัมผัสกับบรรยากาศ ธรรมชาติที่สวยงาม ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ซึ่งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซีย ให้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย”