รัฐบาลจะกักตัวผีน้อยที่หนี COVID-19 ระบาด จากสองเมืองในเกาหลีใต้
2020.03.04
กรุงเทพฯ

ในวันพุธนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแก่สื่อมวลชนว่า รัฐบาลจะกักตัวแรงงานผิดกฎหมายชาวไทยหรือผีน้อย ที่กลับจากสองแหล่งชุมชนในเกาหลีใต้ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงว่าไทยยังมีผู้ติดเชื้อคงที่ที่ 43 ราย โดยได้กำหนด 14 มาตรการ เพื่อรับมือการแพร่ระบาดภายในประเทศแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมมาตรการเร่งด่วน เพื่อรองรับแรงงานไทยที่จะเดินทางกลับจากจังหวัดคยองซัน (Gyoengsang) และศูนย์กลางของจังหวัด ที่เรียกว่า แดกู (Daegu) ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่า รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนไทยเป็นอันดับแรก โดยจะได้ควบคุมผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ของรัฐเป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่นำเชื้อไปแพร่ระบาด
“เมื่อเขาผ่านเข้ามาแล้ว เราก็ต้องมีมาตรการที่รัดกุม โดยเฉพาะกลุ่มผีน้อยเหล่านี้ที่มาจากเกาหลี พื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด คือ 2 เมือง แดกู กับ คยองซัน 2 เมืองนี้เข้ามาแล้ว จะต้องถูกควบคุมในพื้นที่ควบคุม 14 วัน ไม่มีการไปควบคุมที่บ้าน จะมีพื้นที่ในการควบคุม มีแพทย์เข้าไปดูแลต่างๆ มีการรายงานตัวอะไรต่างๆ ทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
“มีชุดแพทย์เคลื่อนที่ มีชุดแพทย์ของทหารไปช่วยดูด้วย เราต้องเตรียมความพร้อมไว้ให้มากกว่าเดิม เพราะคนอาจจะทยอยเข้ามามากขึ้นในช่วงต่อไปนี้ เพื่อจะได้ลดการแพร่กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ การเข้ามาประเทศไทย ก็คงไม่ได้เข้ามาทีเดียว 4-5 พันคนหรอก คงทยอยเข้ามาแหละ เพราะต้องผ่านมาตรการควบคุมของเกาหลีด้วย ผ่านมาตรการควบคุมของสายการบินด้วย เมื่อมาแล้วก็มาคัดกรองที่เราอีกครั้งหนึ่ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติม
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่ได้ระบุว่า แรงงานไทยที่กลับมาจากประเทศเกาหลีใต้จะถูกควบคุมโรคที่ใด แต่คาดว่าจะควบคุมในลักษณะใกล้เคียงกับที่ดำเนินการกับประชาชนที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะเข้มงวดในการตรวจประชาชนที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกรูปแบบ ทั้งทางเครื่องบิน ทางเรือ และทางรถยนต์
ด้านสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า พลโท ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาค 2 พร้อมที่จะเปิดค่ายทหารเพื่อกักตัวผู้เดินทางกลับ เพราะส่วนใหญ่แรงงานที่เดินทางกลับมา เป็นคนอิสาน
ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยข้อมูลว่า วันที่ 3 มีนาคม 2563 มีแรงงานผิดกฎหมายชาวไทย (ผีน้อย) ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ผ่านท่าอากาศยาน 158 ราย เข้าข่ายต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อ เพราะมีไข้สูง 17 ราย โดยปัจจุบันถูกนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว ขณะที่รายอื่นๆ ซึ่งผ่านการตรวจคัดกรองของสนาม ได้ให้กลับไปกักตัวเองที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วัน
โดยจากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562-1 มีนาคม 2563 มีคนไทยที่รายงานตัวกลับจากเกาหลีใต้ 5,248 คน ปี 2561-2562 มีแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศเกาหลีใต้ ประมาณ 2 แสนคน เป็นแรงงานถูกกฎหมาย 66,000 คน แรงงานที่จัดส่งโดยรัฐ 24,000 คน และแรงงานผิดกฎหมายประมาณ 1.2 แสนคน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาตรการเพื่อผลักดันแรงงานผิดกฎหมายกลับประเทศ โดยให้แรงงานรายงานตัวออกนอกประเทศโดยสมัครใจ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งหากรายงานภายในวันดังกล่าว จะไม่ต้องเสียค่าปรับ และจะไม่ถูกห้ามเดินทางกลับมายังประเทศเกาหลีใต้ในอนาคต
ด้านกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาฯ สะสม 43 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 31 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย วันพุธนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่า ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องถูกควบคุมตัวเพื่อกักโรคเป็นเวลา 14 วัน และประชาชนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกัน
“มาตรการการควบคุมโรคโควิด 19 สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทาง ถ้ามีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยก็ให้ประสานกับทางสถานพยาบาล เพื่อนำมาตรวจรักษาหรือแยกกัก หรือกักกันตามความเหมาะสม หากไม่พบอาการต้องสงสัย ผู้ที่มีภูมิลำเนาในไทยให้กักกันตนเองในที่พัก 14 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ผู้ที่ไม่่มีภูมิลำเนาในไทยให้แสดงหลักฐานให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ตามตัวได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
“ชาวต่างชาติเราก็ต้องขอหลักฐานที่อยู่ที่ชัดเจน ต้องให้ทางโรงแรม หรือสถานที่พักนั้นมีสถานที่เป็นหลักแหล่งจริง ๆ เราถึงจะติดตามตัวได้ หากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ชัดเจนได้ ก็จะทำการส่งกลับไปประเทศต้นทาง… สำหรับการเฝ้าระวังและรายงานตัว ให้บันทึกอาการในระบบรายงานตัวจนครบ 14 วันโดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคจะเป็นผู้ติดตามทุกวัน หรือหากพบว่าป่วยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ภายในสามชั่วโมง ผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในระหว่าง 14 วัน เองทั้งหมด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม
นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า มาตรการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาฯ ของกระทรวงสาธารณสุขประกอบด้วย 1. ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งคัด 2. ติดตามดูแลคนไทยในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างใกล้ชิด 3. ทุกส่วนราชการให้มีการระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปประเทศที่แพร่ระบาด และประเทศที่เฝ้าระวัง 4. เตรียมสถานที่ที่สังเกตอาการคัดกรองผู้ป่วย 5. เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา 6. การจัดหาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเพิ่มเติม และหากจำเป็นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานของบประมาณเพิ่มเติม 7. ตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ปัญหาโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ทำเนียบรัฐบาล
8. ประชุมเตรียมพร้อมป้องกันสม่ำเสมอ เพื่อหาทางแก้ไข 9. ทุกหน่วยงานเร่งจัดสินค้า ที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อให้เพียงพอกับความต้องการ 10. ต้องดูแลบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม 11. กระทรวงพาณิชย์ป้องกันการกักตุนสินค้า และการควบคุมราคา 12. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขให้บูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูล รองรับ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 13. กระทรวงคมนาคม คัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด 14. ขอความร่วมมืองดจัดกิจกรรมที่ต้องมีการรวมตัวของประชาชน
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 93,455 คน จากอย่างน้อย 75 ประเทศ มีผู้เสียชีวิต 3,198 คน รักษาหายแล้ว 50,743 คน ประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ตามลำดับ