รัฐบาลไทย กำหนดการประชุมเร่งด่วนว่าด้วย “การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ” ในมหาสมุทรอินเดีย

โดย นาซือเราะ
2015.05.12
TH-summit-620 ผู้ต้องหาเข้าเมืองผิดกฎหมายชาวบังกลาเทศ ถูกส่งตัวไปฟ้องศาลอาญา จังหวัดสงขลา วันที่ 12 พ.ค. 2558
เบนาร์นิวส์

กระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าว กำหนดการจัดการประชุม ว่าด้วย การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นความพยายามเร่งด่วน ในการเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคร่วมมือกัน เพื่อรับมือกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเล โดยเฉพาะในอ่าวเบงกอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ความซับซ้อนของปัญหาที่ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องมีแนวทางรับมือ และกลไกที่ครอบคลุมรอบด้าน โดยประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ปัจจัยเอื้ออื่นๆ ตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ประเทศไทยมุ่งมั่นในแนวทางของความร่วมมือและการประสานงาน

รัฐบาลไทยจะเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโส จากประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 15 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และบังกลาเทศ รวมทั้งประเทศผู้สังเกตการณ์ อาทิ สหรัฐฯ ตลอดจนผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)

การประชุมดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และข่าวกรอง เกี่ยวกับสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเลในปัจจุบัน ความท้าทายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความมุ่งมั่นของประเทศในภูมิภาคที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ และส่งเสริมการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยอาจรวมถึง การบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน เพื่อทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลร่วมกันในประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้และป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดย ขบวนการลักลอบขนคนข้ามชาติและขบวนการค้ามนุษย์

ยังมีผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายหลบหนีการจับกุมอีกจำนวนมาก

ในวันอังคารนี้ (12 พฤษภาคม 2558) พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา ได้แถลงถึงความคืบหน้าภาพรวมของคดี ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ว่า นับตั้งแต่การค้นพบแคมป์ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายชาวโรฮีนจาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม จนถึงขณะนี้นั้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ได้รวมจำนวนทั้งสิ้น 276 คน

พล.ต.อ. เอก กล่าวว่า ในจำนวนนี้ สามารถแยกเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองได้ 213 คน และเป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 63 คน ทั้งนี้ ในจำนวนผู้อพยพพบว่ามี 4 คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้คุมการนำพาผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย

พล.ต.อ. เอก กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจค้นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายบนเทือกเขาแก้ว จากด้านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ไปจนถึงอำเภอรัตภูมิของจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบค่ายที่พัก ทั้งสิ้นจำนวน 73 ค่าย

ซึ่งในตอนเช้าของวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ได้ตรวจพบค่ายที่พักขนาดใหญ่ ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณ 900 เมตร โดยห่างจากค่ายที่พักครั้งแรกไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 1 กม. เบื้องต้นพบสิ่งปลูกสร้าง ทำด้วยไม้เป็นโรงเรือน 21 หลัง ห้องครัว 3 หลัง ห้องน้ำ 18 ห้อง ลักษณะสิ่งก่อสร้างมีสภาพใหม่ และพบร่องรอยการใช้อย่างต่อเนื่อง ภายในค่ายมีเสื้อผ้ากระจัดกระจาย  เจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มนายหน้า และผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย น่าจะเพิ่งหลบหนีไปก่อนที่ค่ายจะถูกค้นพบในวันนี้

ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามท่านหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้ทางการมีความคืบหน้าในการติดตามขบวนการค้ามนุษย์ทั้งขบวนการแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีเจ้าหน้าที่คอร์รัปชั่น คอยพยายามให้ความช่วยเหลือผู้ร่วมขบวนการให้พาผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายเหล่านี้หลบหนี

“เราพบว่ายังมีความพยายามช่วยเหลือกันอยู่ หลังจากตรวจพบค่ายขนาดใหญ่ ที่สามารถจุชาวโรฮีนจาเป็นพันคน ร่องรอยที่พบ สภาพค่าย และเสื้อผ้าที่มีการใช้ ดูยังใหม่อยู่  เชื่อว่ามีการพาโรฮีนจาหลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา ประมาณ 1-2 วัน นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ในยังมีชาวโรฮีนจาอีกจำนวนมากที่ยังอยู่ในทะเล และกำลังเดินทางเพื่อขึ้นฝั่งที่สตูล แต่เหมือนกับมีการส่งสัญญาณให้รู้กัน ทำให้เรือขนชาวโรฮีนจาต้องหันหัวไปขึ้นฝั่งในประเทศมาเลเซียแทน และยังมีอีกจำนวนมากที่ยังลอยลำอยู่ในทะเล” เจ้าหน้าที่ท่านเดียวกันกล่าว

หมายจับ 51 ผู้ร่วมขบวนการลักลอบขนคนและค้ามนุษย์

พล.ต.อ. เอก กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 51 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 19 คน และยังอยู่ระหว่างการจับกุม 32 คน

และในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์สินของ นายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้ามนุษย์รายใหญ่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ ซึ่งมีทั้งรถยนต์ โรงแรม เรือ ที่ดิน อีกนับ 10 ล้านบาท ส่วนนายปัจจุบันนั้น มีรายงานว่าได้หลบหนีคดีไปแล้ว

ชาวบังกลาเทศ 35 คน ถูกส่งดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมาย

ในวันนี้ พ.ต.อ. สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.รัตภูมิ ซึ่งให้การดูแลผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่สถานที่พักพิงชั่วคราว ณ อาคารเอนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำชาวบังกลาเทศ เพื่อคัดแยกว่าใครที่เป็นผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือใครถูกหลอกหรือล่อลวงและถูกทำร้ายมา สำหรับผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี และส่งตัวกลับ ส่วนเหยื่อการค้ามนุษย์ จะส่งให้ทาง กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดูแลต่อไป

โดยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวชาวบังกลาเทศส่งฟ้องศาลอาญาจังหวัดสงขลา ในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย

พ.ต.อ. สุชาติ กล่าวว่า “ชาวบังคลาเทศที่เหลืออยู่ขณะนี้มี 35 คน ซึ่งได้ผ่านการคัดแยกแล้วว่า เป็นผู้ต้องหา ในการหลบหนีเข้าเมือง หลังจากนี้จะดำเนินการส่งศาลดำเนินคดี ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และส่งต่อไปยัง ตม. เพื่อดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง