ศาลฎีกาเริ่มการไต่สวนคดีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประพฤติมิชอบในโครงการจำนำข้าว
2016.01.15

ในตอนเช้าของวันศุกร์ (15 ม.ค. 2559) นี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการเริ่มการพิจารณาคดีทุจริตจำนำข้าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบและไม่ได้ยับยั้งการทุจริต
โดยในวันนี้ ศาลฎีกา ได้กำหนดให้มีการไต่สวนพยานฝ่ายอัยการเป็นนัดแรก ในคดีหมายเลขดำ อม.22/2558 ที่ นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต มาตรา 123/1 มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงสิบปี
“มั่นใจว่าทำอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนพยานใหม่ของโจทก์ ไม่มีความกังวลเพราะเป็นไปตามหลักฐาน ในส่วนพยานของดิฉันก็ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว” นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งถูกรัฐประหารโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2557 กล่าวแก่ผู้ที่มาให้กำลังใจ และสื่อมวลชน
การดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว เริ่มต้นมาจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าไปตรวจสอบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปลายปี 2555 โดยแยกเป็น 2 กรณี
กรณีแรก คือ กรณี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ในภายหลัง ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา น.ส. ยิ่งลักษณ์ ไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ซึ่ง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนางสาวในคดีถอดถอนไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 และที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยคะแนนเสียง 190:18 เสียง ไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558
กรณีที่สอง คือ การทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ให้รัฐบาลจีน ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและทางวินัยกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน ไปเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคดีนี้ มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
ทั้งนี้ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับจำนำข้าวในราคาสูงกว่าราคาตลาดขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร และองค์การคลังสินค้า ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เกวียนละ 15,000 บาท รวมทั้ง มีการสูญหายของสต็อคข้าวและการเสื่อมราคาของข้าว มีการประเมินมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นที่กว่า 5 แสนล้านบาท
ภายหลังการเสร็จสิ้นการไต่สวนพยานซึ่งทำได้สองปากในวันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ได้กล่าวว่า การไต่สวนยังคงมีอีกนานจึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ในขณะนี้
ศาลฎีกาฯจะไต่สวนพยานในนัดถัดไปในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น มีการคาดการณ์ว่าศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะสามารถอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ได้ในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า