เจ้าหน้าที่จับ 4 ผู้ต้องหาหนีคดีเหตุรุนแรงชายแดนใต้ และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.12.29
ยะลา
TH-suspect-620 เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ควบคุมตัวหนึ่งในสามผู้ต้องหาหนีคดี ในการตรวจค้นเป้าหมายในตำบลบาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดีนี้ (29 ธันวาคม พ.ศ. 2559) ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 กล่าวว่า กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สามารถจับกุมตัวบุคคลต้องหมายจับ ป.วิอาญา 3 ราย และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ได้พร้อมกันอีกหนึ่งราย ในจังหวัดยะลา ส่วนในนราธิวาส เจ้าหน้าที่รายงานว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาหนีคดีได้อีกหนึ่งราย

พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่สามฝ่าย ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา สามารถควบคุมตัวบุคคลตามหมาย ป.วิอาญา 3 ราย คือ 1.นายมูฮำหมัด สาแมฮาดี บุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 2 หมาย คือ 434/2559 กับ 435/2559 2. นายมูฮัมหมัด มะแต บุคคลตามหมาย ป.วิอาญา หมายที่ 432/2559  และ 3. นายอาบีดีน เจ๊ะลง ที่บุคคลตามหมาย ป.วิอาญา หมายที่ 433/2559

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาด้วย 1 ราย คือ นายเกษม สะตาปอ น้องชายของนายสะอูดี สะตาปอ แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่ถูกวิสามัญในเขตกาบัง เมื่อปี 2558

“การนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา หลังสืบทราบมาว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับเข้ามากบดานหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จากการตรวจค้นสามารถจับตัวบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา 3 ราย ผู้ต้องสงสัย 1 ราย รวมเป็น 4 ราย ควบคุมตัวที่ศูนย์ซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี” พ.อ.ชลัช กล่าว

ในเวลาต่อมาในวันเดียวกัน กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จังหวัดนราธิวาส ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 8 ม.13 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง นราธิวาส สามารถควบคุมตัวนายมูหาหมัดฮัมดี ยูโซะ อายุ 26 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ เมื่อปี 2556 และเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวนายมูหาหมัดฮัมดี ไปให้หน่วยซักถาม กรม ทพ.46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม และขยายผลต่อไป

การจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยรวม 5 ราย เกิดขึ้นท่ามกลางการรายงานของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้เปิดเผยว่า พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่เตรียมก่อเหตุช่วงปีใหม่ และครบรอบ 13 ปี เหตุการณ์ปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547

“ในจังหวัดปัตตานี พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการ 11 อำเภอ คือ สายบุรี ไม้แก่น กะพ้อ ยะหริ่ง ปะนาเระ มายอ ทุ่งยางแดง ยะรัง แม่ลาน โคกโพธิ์ และอำเภอเมือง โดยจะใช้การยิงรบกวนฐาน และจุดตรวจจุดสกัด วางเพลิงสถานที่ราชการ เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ก่อนทำการสังหารเจ้าหน้าที่ แย่งชิงอาวุธปืน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและชุดคุ้มครองตำบลในพื้นที รวมทั้งใช้วิธีทำลายกล้อง CCTV ยิงใส่และวางระเบิด” แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“ตอนนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและระงับเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะการจัดทำปฎิทินปีใหม่ที่มีภาพคนร้ายนำมาติดบริเวณ ริมเส้นทาง ตามด่านตรวจค้น แต่ละจุดในพื้นที่เชื่อว่า วิธีดังกล่าว จะสามารถทำให้ประชาชน ที่พบเบาะแสและแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ได้ทันระงับเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าวเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ติดปฏิทินรูปคนร้ายตามเส้นทางและจุดตรวจเพื่อให้ระมัดระวังการก่อเหตุในช่วงปีใหม่ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559 (เบนาร์นิวส์)

เกิดเหตุระเบิดรายวัน

ในวันนี้ ร.ต.อ.มารุต นิลโกสีย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนตราโล่ 40484 ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.รือเสาะ ริมถนนสายรือเสาะ-จะกว๊ะ บริเวณบ้านปลายนา ม.2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำงานไม่ปกติ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย

จากการนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายใช้วางระเบิดริมถนน ประกอบระเบิดในถังแก๊สปิคนิค น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร

จ.ส.ต.ศุภโชค แก้วทอง หัวหน้าชุด ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.รือเสาะ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลัง 6 นาย ออกจากฐานเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถหุ้มเกราะ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง