อัยการยะลาเตือนเจ้าหน้าที่ให้ระวังในการจับกุมผู้ต้องสงสัย

พ.ร.บ. ป้องกันอุ้มหาย กำหนดให้เจ้าหน้าที่ถ่ายวิดีโอคลิป ขณะจับกุม-ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
มารียัม อัฮหมัด
2023.07.24
ปัตตานี
อัยการยะลาเตือนเจ้าหน้าที่ให้ระวังในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ชาวบ้านเฝ้าดู ขณะเจ้าหน้าที่กู้ศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจสองรายที่ถูกสังหาร ในจังหวัดนราธิวาส หลังถูกลักพาตัวจากร้านน้ำชา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562
เอเอฟพี

เจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการจังหวัดยะลา แนะนำเจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ใช้ความระมัดระวังในระหว่างการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะในคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพราะพ.ร.บ. ป้องกันอุ้มหาย กำหนดให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ในทันทีที่มีการร้องเรียนถึงการกระทำผิด 

พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดย มาตรา 22-25 ของพรบ. นี้ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมถ่ายวิดีโอคลิปในขณะจับกุม และเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนกระทำเช่นเดียวกันในขณะควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรมระบุว่า ตั้งแต่ปี 2547 มีผู้ที่ถูกบังคับให้สูญหายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อย 31 ราย และมีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

“จากการทำคดีมา เราเห็นว่าฝ่ายจำเลย เวลาสู้คดีเขาสู้ทุกเรื่องทุกประเด็น ในประเด็นเหล่านี้ก็เคยเห็นในการสืบพยาน มีการต่อสู้คดีในศาลเรื่องของการถูกทำร้าย ถูกบังคับ ถูกทรมาน ซึ่งในกฎหมายนี้ดูแล้วว่าเกี่ยวข้องโดยตรง จึงอยากฝากให้มีการระมัดระวัง"

"ถ้ามีการร้องเกิดขึ้น ถ้าท่านไปควบคุมตัวตอนตีสามตีสี่ ญาติเขาวิ่งมาที่สำนักอัยการแล้วมาร้องมาว่า มีการทำร้ายร่างกาย อัยการเรามีจัดเวรพนักงานอัยการอยู่ เราก็ต้องยื่นคำร้อง เพราะในกฎหมายเขียนว่าให้ศาลไต่สวนโดยพลัน” นายสัญญา สะอาด อัยการจังหวัดยะลา กล่าวต่อที่สัมมนา ในโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ภายในจังหวัดยะลา ในวันสุดสัปดาห์นี้

นายสัญญา กล่าวว่า ในตอนนี้ ยังไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้เกิดขึ้นในวันข้างหน้า

230724-th-deep-south-raid.jpg

เจ้าหน้าที่สามฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวข้องก่อเหตุรุนแรง บริเวณร้านขายกะทิสด (ไม่มีเลขที่) ในพื้นที่บ้านบาเฆ็ง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เวลาประมาณ 4:00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 (เบนาร์นิวส์)

ด้าน พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติเป็นปกติ ส่วนประชาชนก็มีความเข้าใจในเรื่องนี้

“ประชาชนก็สามารถทำตามสิทธิที่เขามีได้เช่นกัน เช่น กรณีที่มีการปิดล้อมในยะลาเมื่อต้นเดือนนี้ การบันทึกเสียงและภาพได้เกิดขึ้นจากสองฝ่าย ต่างคนต่างทำหน้าที่และสิทธิของตัวเอง และต่างคนต่างสบายใจ เมื่อเจ้าหน้าที่สร้างความเข้าใจเขาก็ยอมมอบตัวและไม่เกิดความสูญเสียใด ๆ” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าว โดยระบุถึงการที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อความไม่สงบในเดือนนี้

“ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายในแต่ละครั้งที่ทำให้เกิดการวิสามัญเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้ทั้งความอดทน ใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจทำจากเบาไปหาหนัก จนทำให้เกิดวิสามัญทั้งที่จริงไม่ได้อยากให้เกิด ส่วนนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติมาตลอด อีกทั้งมีความพร้อมที่จะอดทนในการปฏิบัติทำตามกฎหมายเมื่อเกิดการกระทำผิดขึ้น” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกิตติสัณห์ ภัทรากรทวีวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ภายในจังหวัดยะลา ประจำปีงบประมาณ 2566

ในการนี้ ได้มีการจัดการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ได้รับทราบแนวปฏิบัติและเน้นย้ำถึงความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมายในบางประการ โดยมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, กองบังคับการสืบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้, กอ.รมน.4, ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10, กองกำลังเฉพาะกิจยะลา, เจ้าหน้าที่ศาล, สำนักงานคุมประพฤติยะลา, เจ้าหน้ากระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จ.ยะลา, ทนายความ, เจ้าหน้าที่ประจำอำเภอ, ไปรษณีย์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ 

นอกจากเหตุที่เกิดในสามจังหวัดชายแดนใต้แล้ว สหประชาชาติ (UN) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2523 ถึงปัจจุบัน มีคนไทยถูกบังคับให้สูญหายอย่างน้อย 82 คน ส่วนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า หลังการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในปี 2557 มีประชาชนอย่างน้อย 104 ราย ต้องหนีออกนอกประเทศไปเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง

การรายงานการควบคุมตัว

ภายหลังเหตุคนร้ายปล้นปืนค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ ไปกว่า 400 กระบอก ในเดือนมกราคม 2547 เหตุการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ปะทุรุนแรงเรื่อยมากว่า 19 ปี โดยรัฐบาลได้ใช้กฎหมายพิเศษ เช่น พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551เพื่อควบคุมสถานการณ์

รัฐบาลได้ประกาศการใช้ พ.ร.บ. กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มากว่า 60 ครั้ง ส่วนหนึ่งเพื่อให้สามารถจับกุมคุมขังผู้ต้องสงสัยเพื่อการสอบสวนได้สะดวกกว่าและยาวนานกว่าอำนาจตาม ป.วิอาญา เช่น ตามอำนาจกฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ไม่ต้องใช้หมายศาลหรือไม่จำเป็นต้องเป็นเหตุเฉพาะหน้า

นายสัญญา สะอาด อัยการจังหวัดยะลา กล่าวถึงรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการในระหว่างการจับกุมคุมขังโดยการใช้กฎหมายพิเศษนั้นว่า เจ้าหน้าที่และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมปฏิบัติอย่างรอบคอบ

“ต้องแจ้งให้อัยการหรือนายอำเภอทราบ และที่เป็นประเด็นอีกเรื่อง คือ ใครต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ หมายถึงรวมบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น มีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจแล้วมีการใช้ประชาชนบางคนเข้ามาช่วยตรงนี้ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามคำนิยามด้วย” นายสัญญากล่าว

ส่วนการส่งคลิปที่ถ่ายในระหว่างการจับกุมนั้น “โดยสรุปมีการคุยแล้วว่าจะส่งก็ได้หรือจะไม่ส่งก็ได้ เพียงแต่ว่าถ้าจะไม่ส่งก็ขอให้ทำบันทึกว่าเหตุผลที่ไม่ส่งเพราะอะไร แต่ถ้าส่งอัยการช่วยดูแล้วก็จะเป็นการรีเช็คก็จะเป็นผลดีต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ”

นายสัญญา ยังได้ย้ำว่า ให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลสภาพร่างกายของผู้ที่ถูกควบคุมตัวด้วย ซึ่งทุกวันนี้มีการบันทึกแค่ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ไม่ได้มีการบันทึกในข้อมูลสภาพของร่างก่ายของผู้ที่ถูกควบคุมตัวเป็นอย่างไร อันนี้ที่เป็นปัญหา

ในส่วนการควบคุมตัวนั้น นายสัญญา กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมตัวรายงานแจ้งให้อัยการทราบเมื่อมีการเปลี่ยนที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย

“เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามอัยการศึกครบ 7 วัน ก็จะต้องส่งต่อตาม พรก. เช่น ส่งไปหน่วยซักถาม ตรงนี้ต้องแจ้งเมื่อพ้นการควบคุมตัว แต่ถ้าควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก 7 วัน อยู่ที่ ฉก.41 แล้วจะต้องควบคุมตัวตาม พ.ร.ก. ต่อที่เดิมไม่ต้องแจ้ง แต่ถ้าส่งไปหน่วยงานอื่นต้องแจ้ง แต่ถ้าควบคุมครบตาม พ.ร.ก. แล้ว จะใช้ กม. ป.วิอาญาต่อ จะต้องส่งตัวต่อให้หน่วยอื่นกรณีนี้จะต้องแจ้ง” นายสัญญากล่าว

นนทรัฐ ไผ่เจริญ ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง