ศาลอาญาสั่งจำคุกมือระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ อีก 78 ปี 30 เดือน

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.01.18
กรุงเทพฯ
180118-TH-bomber-1000.jpg นายวัฒนา ภุมเรศ จำเลยในคดีวางระเบิด ชี้แจงในการแถลงข่าวการจับกุมตัว วันที่ 20 มิถุนายน 2560
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายวัฒนา ภุมเรศ มือวางระเบิดป่วนกรุงฯ เพิ่มอีก 78 ปี 30 เดือน จากความผิดในคดีวางระเบิดอีก 3 คดี ในวันนี้ (18 มกราคม 2560) หลังจากที่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้ถูกตัดสินจำคุก 31 ปี จากการวางระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 ราย

ในวันนี้ ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา ให้จำคุกนายวัฒนา อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ) ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ รวม 3 คดี เป็นเวลา 78 ปี 30 เดือน ปรับ 1,000 บาท พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมกับหญิงสาว 2 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมเป็นเงิน 1.4 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามคดีหมายเลขดำ อ.3220/2560 หมายเลข อ.3221/2650 และหมายเลข อ.3222/2560 (วางระเบิดที่หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน วันที่ 8 พ.ค. 2550 ที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2560 และที่หน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560)

ศาลให้นับโทษจำคุกต่อจากคำพิพากษาก่อนหน้า 2 คดี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้นกว่า 100 ปี จากคำพิพากษา 5 คดี ขณะที่ยังเหลืออีก 2 คดี ที่ยังไม่มีคำพิพากษา

หลังจากนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี ได้วางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2560 อันเป็นวันครบรอบสามปีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายวัฒนาถูกจับกุมในเวลาไม่นานนัก และได้รับสารภาพว่าเป็นผู้วางระเบิดสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ รวม 6 แห่ง ในระหว่าง ปี 2550-2560 และยังเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน ถนนพหลโยธิน ในวันที่ 9 เม.ย. 2550 จากนั้น ที่ปากซอยราชวิถี 24 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2550 รวมถึงเหตุระเบิด ที่ข้างกรมแผนที่ทหารบก ติดกับกองบัญชาการทหารบก ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2550 และที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ 5 เม.ย. 2560 รวมทั้งที่หน้าโรงละครแห่งชาติในวันที่ 15 พ.ค. 2560

นายวัฒนา ได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าวการถูกจับกุมว่า ตนวางระเบิดเพราะไม่ชอบนายทหารบางคนที่ก่อการปฏิวัติ

ในวันนี้ ผู้พิพากษาศาลอาญา ได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กองสลากฯ หน้าโรงละครแห่งชาติ และหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำนวน 3 คดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา7 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายวัฒนาในฐานความผิดคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกรรมต่างวาระและสถานที่ คือ ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ประกอบฯ และใช้วัตถุระเบิดที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ฯ กระทำให้เกิดระเบิด มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง พา(ระเบิด)ไปในเมือง หมู่บ้าน สถานที่สาธารณะ

“ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกระทงความผิดไป...” ตอนหนึ่งของคำพิพากษาระบุในแต่ละคดี

คำพิพากษายังระบุด้วยว่า คำสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุให้ได้รับการลดโทษและบรรเทาโทษตามกฎหมาย จึงลดโทษลงกึ่งหนึ่งในแต่ละคดี รวมแล้วพิพากษาจำคุก นายวัฒนา 3 คดี เป็นเวลา 78 ปี 30 เดือน และปรับ 1,000 บาท รวมทั้งริบของกลาง และชดใช้ค่าเสียหายให้หญิงสาวสองคน ที่เป็นเหยื่อจากระเบิดของนายวัฒนา รวม 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

โดยศาลให้นับโทษจำคุกต่อจากคดีครอบครองวัตถุระเบิดที่บ้านพักของตนเองย่านบางเขน ที่ศาลพิพากษาไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2560 อีก 4 ปี ปรับ 975 บาท และคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่มีคำพิพากษาเมื่อเดือนธันวาคม 2560 อีก 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท รวมนายวัฒนาต้องโทษจำคุก 108 ปี 42 เดือน ปรับอีก 2,475 บาท ในขณะที่ยังมีคดีอีก 2 สำนวนที่ศาลยังไม่ได้นัดอ่านคำพิพากษา ได้แก่ คดีระเบิดที่ปากซอยราชวิถี 24 และที่ข้างกรมแผนที่ทหารบก ติดกับกองบัญชาการทหารบก ถนนราชดำเนิน ในปี 2550

ในการฟังคำพิพากษาวันนี้ นายวัฒนา ได้อ้อนวอนผู้พิพากษาให้พิจารณาลดโทษให้ตน ก่อนที่ผู้พิพากษาจะได้อ่านคำพิพากษา

“ท่านผู้พิพากษาครับ เนื่องจากผมได้ให้การรับสารภาพในทุกข้อหา และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์มาโดยตลอด ผมขอให้ท่านพิจารณาลดโทษ และบรรเทาโทษให้ผมตามความเหมาะสมด้วยครับ” นายวัฒนา ในชุดผู้ต้องขัง สีน้ำตาล ยืนกล่าวต่อผู้พิพากษาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โดยผู้พิพากษาตอบกลับว่า ศาลได้พิจารณาทุกอย่างตามกฎหมาย ก่อนที่จะเริ่มอ่านคำพิพากษา

หลังสิ้นสุดการตัดสิน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวัฒนากลับเรือนจำ โดยนายวัฒนาไม่ได้กล่าวอะไรกับผู้สื่อข่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง