ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่ากลุ่มค้ามนุษย์เป็นผู้ลงมือวางระเบิดที่ศาลพระพรหม

ทีมข่าวเบนานิวส์
2015.09.28
TH-bombfolo-620 พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 28 กันยายน 2558
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์ (28 ก.ย. 2558) นี้ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทรว่า ตนเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการที่ทางการไทยได้ทำลายเครือข่ายการค้ามนุษย์ และยังเชื่อว่ามีกลุ่มคนไทยบางกลุ่มต้องการให้เกิดเหตุการระเบิดเพื่อให้สมจุดประสงค์ของตน

“มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่ามาจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำลายหรือไปจับกุมขบวนการ หรือ เครือข่ายการค้ามนุษย์” พล.ต.อ. สมยศ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“แต่เรายังเชื่อมั่นว่ายังมีกลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้หรือการก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นผู้จ้างวาน หรือใช้สอย อย่างที่ผมเคยพูดอยู่ตลอดว่า มีบุคคลหลายคน หลายกลุ่ม ที่มีวัตถุประสงค์ มีความต้องการหรือมีจุดประสงค์เดียวกัน ได้ร่วมกันทำให้ทุกฝ่ายสมประสงค์ แต่ผู้จ้างวานเป็นใครนั้น พนักงานสอบสวนต้องขยายผลต่อไป” พล.ต.อ. สมยศ กล่าวเพิ่มเติม

ถึงปัจจุบัน มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับทั้งสิ้นแล้ว 17 ราย เป็นคนไทย 2 คน และคนต่างชาติ 15 คน ในผู้ต้องหาต่างชาติ 15 คนนั้นถูกจับแล้วสองราย คือ นายไบลาล มูฮัมหมัด ที่ถูกระบุว่าเป็นชายเสื้อเหลือง และนายไมไรลี่ ยูซูฟู

โดยในชั้นนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจะได้สรุปสำนวนคดีเพื่อเตรียมส่งให้ทางอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาสองรายนี้ต่อไป ในข้อหาทำให้เกิดการระเบิด ร่วมกันฆ่าบุคคลอื่น และร่วมกันจะฆ่าบุคคลอื่น ซึ่งจะมีการฟ้องร้องต่อศาลทหาร ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ให้คดีที่เกี่ยวข้องกับยุทธภัณฑ์ต้องขึ้นศาลทหาร

ในการแถลงข่าวในวันนี้ พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรไชยเดช ผู้กำกับการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้อธิบายถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ว่า มีผู้ที่อยู่ในระดับปฏิบัติการรวม 5 คน และมีบุคคลที่ให้การสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น การเช่าที่พัก การนำเข้าที่พัก การเปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือ และการหาอุปกรณ์ในการทำระเบิด เป็นต้น

“พนักงานสอบสวนยืนยันว่า มีกลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่ใช้ จ้าง วาน สั่งการ ให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ ลงมือกระทำความผิด ประกอบไปด้วยนายอิซาน (อาบูดูซาต้าร์ อบูดูเระห์มาน) นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน นายซูแบร์หรือชายเสื้อฟ้า ซึ่งภายหลังเราทราบชื่อว่าซูแบร์ นายไมไรลี่ ยูซูฟู และสุดท้ายคือคุณไบลาลหรือบิลัล (มูฮัมหมัด) ทั้งหมดนี้เป็นชุดที่เข้ามาดำเนินการปฏิบัติการ ส่วนบุคคลอื่นๆ เป็นผู้สนับสนุน ผู้ร่วมในการกระทำความผิด” พล.ต.ต. ชยพล กล่าว

นอกจากนั้น ในการสืบสวนโดยใช้เครื่องมือพิเศษ และพยานหลักฐานต่างๆ สามารถโยงใยผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน และการทำภาพเชิงซ้อนสามารถเชื่อว่านายไบลาล มูฮัมหมัด คือ มือระเบิดชายเสื้อเหลือง พล.ต.ต. ชยพล กล่าว

พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การระบุตัวว่านายไบลาล มูฮัมหมัด ยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิด จนกระทั่งตำรวจระบุตัวว่า คือชายเสื้อเหลืองได้นั้น เนื่องจากว่า ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพในภายหลัง หลังจากที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาขึ้น

นอกจากนั้น พล.ต.ต. ชยพล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีบุคคลสัญชาติไทยอีกหนึ่งรายที่เกี่ยวข้อง

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นที่มาทำให้เกิดการสงสัยว่าอาจจะมีผู้เสียประโยชน์ทางด้านการเมือง และผสมโรงในการก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้

“จากการสอบสวนนายยูซูฟู ให้การว่าผู้ที่ติดต่อเขา ช่วยเหลือเขา จัดหาวัตถุระเบิด จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่เอามากระทำความผิดในครั้งนี้ คืออาบูดูซาต้าร์ อบูดูเระห์มานหรือนายอิซาน และยังมีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่ง เป็นคนไทย คือ นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว” พล.ต.ต. ชยพล กล่าว

นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว ต้องโทษคดีอาญาหลายคดี ในปี พ.ศ. 2553 เคยถูกจับดำเนินคดี ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เหตุเกิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ในยุคที่มีการต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ศาลจำคุกหนึ่งปี ศาลรอลงอาญา และถูกหมายจับเหตุระเบิด ปี 2557 ที่มีนบุรี มีระเบิดและมีคนตาย มีความเชื่อมโยงคดีอื่นๆ อีกหลายคดี

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง