ผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิดหน้าโรงเรียน-โรงพยาบาล ในอำเภอกะพ้อ ปัตตานี บาดเจ็บ 11 ราย
2016.02.18

ในวันพฤหัสบดี (18 ก.พ. 2559) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในอำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ได้กล่าวว่า ได้เกิดเหตุระเบิดสองเหตุการณ์ ต่างเวลา ที่หน้าโรงเรียนบ้านกรุบี และหน้าโรงพยาบาลกะพ้อ ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันเพียง 500 เมตร เป็นเหตุให้นักเรียน ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ รวม 11 ราย
เหตุการณ์แรก เช้าวันนี้ โดย ร.ต.ท. ณรงค์ พันธ์มณี พนักงานสืบสวนประจำสถานีตำรวจกะพ้อ ได้รับแจ้งเหตุระเบิด ที่หน้าโรงเรียนบ้านกรุบี หมู่ 4 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ พร้อมนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 คน ได้แก่ น.ส.ซาลีฟ๊ะ เจะเต๊ะ อายุ 35 ปี มารดา ด.ญ.นิอามีเนาะ ชาโลง อายุ 12 ปี เป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่หก และ ด.ช.นิอาดัม ชาโลง อายุ 7 ปี เป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่สอง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวและขา ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลกะพ้อ นอกจากนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจกะพ้อ 2 นาย ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บ คือ ส.ต.ท. เอกสิทธิ์ ศรีวะปะ และ ส.ต.ท. ธีระศักดิ์ บัวนุ้ย
พ.ต.ต.ไพบูลย์ พูนมะณี หัวหน้าชุดปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิด จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นการวางระเบิดแสวงเครื่องแบบเร่งด่วน บรรจุในถังแก๊สปิคนิค โดยคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดไปวางบริเวณหลักบอกตำแหน่งท่อลอดของจุดเกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจุดดังกล่าว คนร้ายใช้การจุดระเบิดระยะไกลขึ้นด้วยวิทยุสื่อสาร
“วัตถุพยานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ มีชิ้นส่วนถังแก๊สปิกนิก เป็นภาชนะบรรจุระเบิด สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กตัดท่อนคละขนาด ชิ้นส่วนแผงวงจร DTMF ชิ้นส่วนวิทยุสื่อสาร ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ ขนาด 1.5 และ 9 โวลต์ และชิ้นส่วนผ้าภาชนะอำพราง” พ.ต.ต.ไพบูลย์ กล่าว
ต่อมาเกิดเหตุระเบิดครั้งที่สอง เวลา 15.40 น. คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณริมถนนสาย 4060 หน้าโรงพยาบาลกะพ้อ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนกรุบี ประมาณครึ่งกิโลเมตร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 33 ทั้ง 6 นาย ทราบชื่อ คือ 1. ส.ต.ท.นัฐวุฒิ แก้วมงคล 2. ส.ต.ท.ศุภชัย แก้วประโชติ 3. ส.ต.ท.ภูวิช แก้วยก 4. ส.ต.ท.ยุวากร จันทเลิศ 5. ส.ต.ต.ภานุวัฒน์ ภาชู 6. ส.ต.ต.อัสวัน แรเฮ็ง ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลเมืองปัตตานี อาการไม่สาหัส
ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ทหาร เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากในวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายซาบาหรี เจะอาลี อายุ 30 ปี พร้อมด้วยอาวุธปืน และระเบิดในแหล่งกบดาน ทำระเบิด ในป่าโกงกาง และมีสมาชิกกลุ่มก่อการหลบหนีไปได้ 5 คน
ครูหญิงวิงวอนให้เลิกความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงในปี 2547 เป็นต้นมา มีครูและบุคคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตบาดเจ็บ และได้รับความเสียหายทางทรัพย์สินอีก
“ขณะนี้ มีครูและบุคคลากรทางการศึกษาเสียชีวิต 179 คน บาดเจ็บ 167 คน ทุพพลภาพโดยสิ้นเชิง 9 คน และ ทรัพย์สินเสียหาย 61 คน หลังเกิดเหตุการณ์วันนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมนักเรียนที่ประสบเหตุ” นายบุญสม กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
นายบุญสม ยังกล่าวอีกว่าในวันนี้ตนได้ร่วมประชุมกับทาง กอ.รมน.4 ถึงกรณีโรงเรียนที่ถูกวางเพลิง จำนวน 2 โรงเรียน ในปีนี้ และคุยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งทาง กอ.รมน.4 รับข้อเสนอทุกข้อที่เสนอไป ทั้งเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยการดูแลพื้นที่ระหว่างรอยต่อ และเรื่องที่จับคนร้ายได้ที่ท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ทำให้เห็นว่ายังมีผู้ก่อเหตุที่ชัดเจนอยู่ หลังเกิดเหตุในวันนี้ โรงเรียนบ้านกรุบี จะไม่หยุดการเรียนการสอน เพราะมีการคุยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับครูอย่างเต็มที่
ด้านนางสาวพาตีเมาะ จินตรา ครูโรงเรียนจังหวัดยะลา กล่าว ในห้วงเวลาดังกล่าว มีเด็กเสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรงไปแล้ว 81 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 447 คน และมีผู้หญิงเสียชีวิต 431 คน ได้รับบาดเจ็บ 1,652 คน และอยากให้รัฐจริงใจในการแก้ไขปัญหา
“สิบสองปีที่เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ มีเด็กเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไปแล้วตอนนี้ 81 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 447 คน และมีผู้หญิงเสียชีวิต 431 คน ได้รับบาดเจ็บ 1,652 คน ยังไม่พออีกหรือกับความรุนแรง ตอนนี้ทุกคนต่างเบื่อกับสิ่งนี้ อยากให้รัฐใช้หัวใจแก้ปัญหาอย่างจริงใจประกอบด้วย” นางสาวพาตีเมาะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“เด็กไม่ผิดอะไร ผู้ปกครองแค่มารับมาส่งลูกหลานมาโรงเรียน ไม่สมควรที่จะเจอเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ อยากให้ทุกคนเฝ้าระวังเหตุรุนแรง และเลิกใช้ความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง ขอประณามคนที่ใช้ความรุนแรง” นางสาวพาตีเมาะกล่าว
ทหารเสียใจ-ประณามการก่อการร้าย
พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อทางญาติและครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ อันเกิดจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ยังคงมีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง
“ก่อการร้ายและไร้มนุษยธรรม ซึ่งนอกจากเป็นการละเมิดต่อหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดต่อหลักคำสอนในบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรงอีกด้วย” พันเอกยุทธนาม กล่าว
“กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มองค์กรเครือข่ายที่เคลื่อนไหวเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ ได้ออกมาร่วมกันประณามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรง อันเกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงกันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยกันแจ้งเบาะแสคนร้าย”
ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวมาตลอดว่าจะมีการก่อเหตุหนักขึ้นในช่วงนี้ เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ ที่สามารถควบคุมแกนนำคนสำคัญในพื้นที่ได้ และจากวันที่จับได้จนถึงวันนี้ เหตุการณ์ในพื้นที่ได้ทวีความรุนแรง และมีการพิจารณาด้วยว่ามีสาเหตุอื่น ที่ทำให้มีเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่