แม่ทัพภาคที่ 4 ไม่ใส่ใจผู้ไม่หวังดีโพสต์ ประกาศค่าหัว 1 ล้านบาท

มาตาฮารี อิสมาแอ และ มารียัม อัฮหมัด
2017.07.06
นราธิวาส
TH-deepsouth-commander-1000 พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พูดคุยกับผู้สื่อข่าวที่มณฑลทหารบกที่ 42 ในจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560
มาตาฮารี อิสมาแอ/เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดี (6 กรกฎาคม 2560) นี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงการณ์ตอบโต้การกระทำของผู้ไม่หวังดี ที่ประกาศตั้งค่าหัวตนเอง เป็นเงิน 1 ล้านบาทผ่านเฟซบุ๊ค โดย พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า เชื่อประชาชนจะไม่คล้อยตามกับการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในครั้งนี้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาตัวผู้ไม่หวังดีรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

โดยเมื่อก่อนเที่ยงคืน วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 มีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Suding Su Patani ได้โพสต์รูปของ พล.ท.ปิยวัฒน์ และระบุข้อความกำกับรูปว่า “ประกาศตัดหัวให้ 1,000,000” และ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” พร้อมทั้งได้ส่งต่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายอื่น จนเป็นที่วิพากษ์-วิจารณ์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงการโพสต์ข้อความดังกล่าวว่า การกระทำครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ภายในกลุ่มก่อความไม่สงบมีความสับสนในแง่ยุทธศาสตร์ และเชื่อว่าประชาชนจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับค่าหัว 1 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการประกอบอาชีพสุจริตอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกระทำผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้รับเงิน

“คิดว่าขบวนการพวกเขาน่าจะมีความระส่ำระสาย ไม่สามารถควบคุมกันได้ ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ด้านเศรษฐกิจ และมวลชน จึงหันมาโพสต์ข้อความแบบนี้ การที่โพสต์ประกาศค่าหัวเป็นการลดปมด้อยของกลุ่มขบวนการที่ไม่มีงาน ไม่มีอาชีพ ไม่มีใครสนับสนุนด้านการเงิน” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าว

“เงิน 1 ล้านบาทอาจถือเป็นเงินจำนวนมากสำหรับกลุ่มขบวนการ แต่สำหรับประชาชนในพื้นที่ซึ่งปฏิเสธการใช้ความรุนแรง เงิน 1 ล้านบาท ไม่มีค่าสำหรับเขา เพราะมีอาชีพสุจริต มีรายได้ และมีงานทำกับโครงการของรัฐบาล... เงิน 1 ล้านบาทไม่ต้องมาทำอะไรผมหรอก ไปขโมยนกเขากรงหัวจุกเถอะ 2 ตัวก็ได้ 2 ล้านแล้ว ไม่ต้องเสี่ยงมาสังหารผม” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่ พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาคที่ 4 ส่วนหน้า เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ผ่านโทรศัพท์ ถึงกรณีเดียวกันว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ได้สั่งการให้ติดตามหาตัวผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คชื่อ Suding Su Patani แล้ว เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายดังกล่าวมักโพสต์ข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริง

“พบว่าผู้โพสต์ ได้โพสต์ข้อมูลลงเฟซบุ๊ค พยายามโฆษณาบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างกระแส" พ.อ.ยุทธนามกล่าวต่อว่า "กองทัพภาค 4 อยู่ระหว่างตรวจสอบบุคคลที่โพสต์ และเชื่อว่า ผู้โพสต์ไม่ได้ใช้ชื่อจริง”

ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองความมั่นคงผู้ไม่ประสงค์จะออกนามรายหนึ่ง เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า กลุ่มที่โพสต์ข้อความและภาพในครั้งนี้อาจเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการของบีอาร์เอ็นหรืออาร์เคเค ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้

ขณะที่ นายนาแว สงวนนามสกุล ชาวปัตตานีแสดงความคิดเห็นต่อการโพสต์ข้อความลักษณะดังกล่าวว่า การกระทำนี้ขัดกับความเชื่อของศาสนาอิสลาม โดยเชื่อว่ากลุ่มขบวนการต้องการปรับกลยุทธ์สู่การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะเดียวกันกับที่ฝ่ายรัฐดำเนินการ

"ทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ก็หันมาใช้โซเซียลในการปลุกกระแสไม่ต่างจากกลุ่มขบวนการ คำว่า ตาต่อตาฟันต่อฟัน สำหรับ คนสองฝ่ายนี้จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การประกาศตัดหัว หากมองในมุมศาสนาไม่มีการสอนให้ทะเลาะหรือฆ่ากัน โดยเฉพาะการตัดหัวแค่การคิดในอิสลามยังห้าม ไม่ต้องไปคิดถึงการลงมือกระทำจริง” นายนาแวกล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง