สนช. ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 62 วาระแรก 3 ล้านล้านบาท
2018.06.07
กรุงเทพฯ

แก้ไขข้อมูล เวลา 9:40 p.m. EST 2018-06-07
ในวันพฤหัสบดีนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปีที่แล้วกว่าร้อยละ 3 โดยในนั้นเป็นงบด้านกลาโหมและความมั่นคง 3.2 แสนล้านบาท ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าว่ารัฐบาลตรวจสอบการทุจริตอย่างต่อเนื่อง
ที่ประชุมสมาชิก สนช. ได้ลงมติในวาระที่หนึ่ง รับหลักการแห่ง ร่างพรบ.งบประมาณปี 2562 ด้วยคะแนนเสียง197 คะแนน งดออกเสียง 3 ราย โดยไม่มีผู้คัดค้าน จากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณา จำนวน 50 คน เพื่อกำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน และมีระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่รัฐสภาว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2562 จะจำแนกตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน คือ 1. ด้านความมั่นคง 329,239.6 ล้านบาท 2. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 406,496 ล้านบาท 3. ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน 560,884.9 ล้านบาท 4. ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างการเติบโตจากภายใน 397,581.4 ล้านบาท 5. ด้านการจัดการน้ำ และสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 117,266 ล้านบาท 6. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ 838,422.2 ล้านบาท และ รายการค่าดำเนินการภาครัฐ อีกกว่า 350,000 ล้านบาท
“เมื่องบประมาณมีวงเงินสูงขนาดนี้ หลายคนบอกว่า อาจจะมีการทุจริตอีก ผมถามว่าถ้าคิดอย่างนี้ ก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องมองว่า งบประมาณวันนี้ทำครบหรือเปล่า และเหมาะสมหรือไม่ แต่ถ้าบอกตั้งแต่แรกมีงบประมาณมาก แล้วจะเกิดทุจริต ก็คงทำอะไรกันไม่ได้ การทุจริตเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องใช้กลไกในการตรวจสอบไปดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลนี้ตรวจสอบทุกวัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
“เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ดีก็มี เจ้าหน้าที่ที่ขี้โกงก็มี มันเป็นคนนะครับ อย่าโทษระบบแต่เพียงอย่างเดียว” นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อที่ประชุม
งบประมาณในปีที่จะมาถึงนี้ จะเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี ที่รัฐบาลได้ประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว โดยพลเอกประยุทธ์ ยังได้เน้นถึงการจัดการในแต่ละภาคที่มีศักยภาพต่างกัน แต่ให้สร้างความเชื่อมโยงกันด้วยโครงสร้างพื้นฐาน และมีการกระจายงบประมาณสู่ภาคต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ถือว่าสูงขึ้นจาก พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2561 ซึ่งมีวงเงิน 2.9 ล้านบาท โดย พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 นี้
ในส่วนของงบประมาณยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงนั้น ของ พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2561 มีมูลค่า 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่างบประมาณด้านความมั่นคงของ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2562 ถึง 5 หมื่นล้านบาท
รัฐบาล ยังเน้นย้ำการต่อสู้กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การคุกคามทางไซเบอร์ การก่อการร้ายและอาชญกรรมข้ามชาติ ซึ่งรัฐบาลได้จัดตั้งกองทัพไซเบอร์เพื่อรับมือกับการนี้ และยังมีการฝึกร่วม/ผสมกับชาติพันธมิตรชาติต่างๆ
แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ 4 ก่อน รัฐบาลทหารได้ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นจำนวนมาก เช่น เรือดำน้ำจากประเทศจีน มูลค่า 36,000 ล้านบาท โครงการจัดซื้อรถถังวีที-4 จากประเทศจีน 48 คัน มีมูลค่าเกือบห้าพันล้านบาท รวมทั้งการที่สาธารณชนไม่สามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้ แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบต่องบประมาณมาโดยตลอด
นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า แผนจัดสรรงบประมาณ ปี 2562 ของรัฐบาลเป็นไปอย่างเหมาะสมกับรายได้ของประเทศ
“เห็นด้วยกับกรอบหลักการของงบประมาณ ปี 2562 ผมคิดว่า การจัดสรรงบประมาณปีนี้จัดได้พอเหมาะพอดี... ในปี 2562 มีการคาดการณ์ว่าเราจะเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 2.55 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าในปี 61 อยู่ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากมูลค่าของจีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น เกิดจากรัฐบาลทำงานหนักมาตลอด 4 ปี ทำให้สามารถพลิกสถานการณ์ทางการเมืองจากจีดีพีติดลบ” นายเฉลิมชัยกล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตขึ้น 4.8 เปอร์เซ็นต์ เติบโตเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี
* แก้ไขตัวเลข งบประมาณใหม่ปี 2562 เป็น 3 ล้านล้านบาท จากเดิมลงไว้ 3.3 ล้านล้านบาท