เจ้าหน้าที่พบชาวพม่า 8 คน หลบหนีเข้าเมืองที่สงขลา
2016.05.03
สงขลา

ในวันอังคาร (3 พฤษภาคม 2559) นี้ ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นสนธิกำลังตำรวจทหารเข้าควบคุมตัวชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายสัญชาติพม่าจำนวน 8 คน ทราบเบาะแสมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์
วันนี้นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภอสะเดา สั่งการให้นายณพล พาหุมันโต ปลัดอำเภอ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ กำนัน เข้าตรวจสอบพื้นที่ บริเวณสวนยางพารา ในเขตบ้านไร่ตก หมู่ที่ 6 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ได้เคลื่อนไหว และนำบุคคลต่างด้าวเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่พบ บุคคลต่างด้าวพร้อมสัมภาระหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าสวนยางพารา เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและทำการสอบสวน ทำให้ทราบว่า ชาวต่างชาติทั้งหมดมีสัญชาติพม่า เป็นชาย 6 คน และ หญิง 2 คน
จากข้อมูลของชาวพม่าทั้งหมดทำให้ทราบว่า พวกเขาพยายามเข้ามาอยู่ในบริเวณดังกล่าวเพื่อรอคอยการข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยหลังจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งต่อไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะเดา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และทำการสอบสวนขยายผลต่อไป
ชาวพม่ายังคงใช้ไทยเป็นทางผ่าน ในการหลบหนีไปประเทศอื่น
เมื่อหนึ่งปีก่อน ในวันที่ 1 พ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจปาดังเบซาร์ ได้พบศพชาวโรฮิงญาบนเทือกเขาแก้ว ในพื้นที่ ม.8 บ้านตะโล๊ะ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณสามสิบศพ เป็นชาวโรฮิงญาที่เดินทางมากับขบวนการค้ามนุษย์ แต่อดอาหารหรือป่วยตายเสียก่อน ในขณะรอข้ามพรมแดน
จากนั้นมา ประเทศไทยได้เข้มงวดต่อการเดินทางของโรฮิงญามายังฝั่งทะเลอันดามัน มีการประชุมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และในวันที่ 26 พ.ค. 2558 ทางกองทัพเรือได้ตั้ง “ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย” ซึ่งพลเรือโทจุมพล ลุมพิกานนท์ กล่าวในวันนี้ว่า นับตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มา ยังไม่พบว่ามีการโยกย้ายถิ่นฐานทางเรือ
องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนฟอร์ติไฟไรส์ กล่าวว่า ในขณะนี้ ยังมีชาวโรฮิงญาตกค้างในไทยประมาณ 400 คน และมีชาวบังกลาเทศถูกกักตัวอยู่ 16 คน ส่วนในประเทศมาเลเซีย ยังมีชาวโรฮิงญาตกค้างอยู่ประมาณสามพันกว่าคน และในอินโดนีเซียอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้พบกลุ่มชาวโรฮิงญา 14 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ใหญ่สิบคน และเด็กทั้งหญิง-ชาย อายุ ในระหว่าง 2 ถึง 11 ขวบ อีกสี่คน ได้วิ่งหลบหนีตำรวจเข้าไปแอบในป่าละเมาะ ช้างถนนในอำเภอเมือง ชุมพร หลังจากที่ตำรวจพบเห็น และเข้าไปสอบถามเพื่อจะช่วยเหลือ
จากการสอบปากคำต่อมา ทราบว่า ทั้งหมดได้ตกลงจ่ายค่านำพาหัวละ 15,000 บาท ให้กับนายหน้าชาวพม่าและชาวไทย โดยให้นำพาด้วยรถยนต์ไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกทิ้งไว้เมื่อวันที่ 26 เมษายน เมื่อถนนช่วงถัดไปมีด่านตรวจ