กลุ่มชาวบ้านเสียงแตกคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

ในวันพุธ (17 ก.พ. 2559) นี้ ชาวบ้านในอำเภอเทพามีความคิดเห็นต่อแผนการสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ แบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย ในเวทีชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่มณฑลทหารบกที่ 42 จัดขี้น พบว่ามีประชาชนบางส่วนเข้าร่วมแสดงการคัดค้าน ในขณะที่ประชาชนบางส่วนกลับเห็นด้วยกับโครงการ

เวทีชี้แจงข้อมูลดังกล่าว จัดขึ้นที่โรงแรมเทพาบีชรีสอร์ท อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยมีทหารจากมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นผู้ควบคุมงาน มีผู้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลประมาณ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการในตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา หรืออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

โดยระหว่างการชี้แจงข้อมูลได้มีประชาชนบางคนลุกขึ้นแสดงความคิดเห็น ซึ่งนางมารีแย เจะมามะ ชาวบ้านตำบลปากบาง ได้แสดงความคิดเห็นในเวทีว่า “อย่ามาบอกว่าคนในพื้นที่ปากบางอยากได้โรงไฟฟ้าถ่านหินนะ เพราะเราประกาศชัดเจนว่า เราไม่เอาถ่านหิน”

นางมารีแย ยังกล่าวอีกว่า คนที่สนับสนุนโครงการ ไม่ใช่คนในพื้นที่ และกล่าวว่า คนเหล่านั้น ถูกจ้างมาเพื่อสร้างสถานการณ์

ทางด้าน นายเอกชัย อิสระทะ เครือข่ายพลเมืองสงขลา กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านเทพา เริ่มมีการผลักดันให้ก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2558 โดยก่อนหน้านี้ โครงการดังกล่าวไม่เคยอยู่ในแผนการพัฒนาของอำเภอ เพราะปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีโรงไฟ้าถึง 2 แห่ง กำลังผลิตถึง 1,500 เมกกะวัตต์ต่อปี และที่ผ่านมาโครงการก็สร้างผลกระทบให้กับคนในพื้นที่ ตนจึงเห็นว่า ปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีไฟฟ้าเพียงพอ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างปัญหาเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ผู้เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พวกตนเคยมีความคิดคัดค้านต่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนความคิด

“เพราะในช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาดูงานการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่อื่น พบว่าโครงการไม่ได้สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ อีกทั้งยังเชื่อว่า การมีโรงไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มการพัฒนาในพื้นที่ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้คนในท้องถิ่น” นางอารีย์ รามัญเซะ ตัวแทนกลุ่มแม่ค้าตลาดนัดสี่แยกพระพุทธ กล่าว

โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา กำลังผลิต 2,200 เมกกะวัตต์ ใช้พื้นที่ก่อสร้าง 2,960 ไร่ จะตั้งอยู่ในตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ หากการก่อสร้างสำเร็จจริง โรงไฟฟ้าแห่งนี้ จะถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง

กลุ่มกรีนพีซ ประเทศไทย ได้รายงานว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2497 ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จนเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะได้ฟ้องร้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีรายงานข่าวว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตปรับปรุงการทำเหมือง ไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย และให้อพยพผู้คนที่อยู่อาศัยออกนอกรัศมี 5 กิโลเมตร แต่ไม่มีการพูดถึงการชดเชยแก่ผู้ป่วย

กลุ่มกรีนพีซ ประเทศไทย ได้รายงานผลกระทบของถ่านหิน โดย ดร.อาภา หวังเกียรติ จากวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ว่า สารที่เหลือจากกระบวนการเผาไหม้ เช่น เถ้าหนัก เถ้าลอย จะมีสารหนู สารตะกั่ว สารปรอท สังกะสี สารหนูมีผลกระทบต่อระบบประสาท มะเร็งในปอด หากสัมผัสจะมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนัง สารปรอทมีผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้การพัฒนาสมองไม่เต็มที่

ส่วนเถ้าที่ถมอยู่ในแม่เมาะจะถูกชะล้างเวลาฝนตก สะสมลงสู่ระบบนิเวศน์ของแม่เมาะ ทุกๆ กระบวนการของการผลิตถ่านหิน ตั้งแต่การทำเหมือง การขนส่ง การเผาไหม้ การระบายน้ำเสีย มีสารโลหะหนักถูกปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ ดิน หรืออากาศ สารโลหะหนักเหล่านี้จะไปปนเปื้อนและสะสมในสิ่งมีชีวิต

กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า ในอนาคต การไฟฟ้าฝ่ายผลิต มีโครงการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในประเทศขึ้นอีก 14 แห่ง