ศาลสงขลาอนุญาตให้ภรรยาหม้าย ร่วมซักถามสาเหตุการตาย นายอีซอมูซอ

มารียัม อัฮหมัด
2020.06.08
ปัตตานี
200608-TH-court-autopsy-800.jpg นางซูไมยะห์ มิงกะ (กลาง) ภรรยาหม้ายของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ร้องไห้ขณะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสามี ให้เจ้าหน้าที่ศอ.บต. เจ้าหน้าที่จังหวัดและอำเภอ ที่มาเยี่ยมที่บ้าน ใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี วันที่ 6 กันยายน 2562
เบนาร์นิวส์

ศาลจังหวัดสงขลาได้อนุญาตให้นางสาวซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาหม้ายของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เข้าร่วมไต่สวนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของสามี ซึ่งหมดสติในขณะที่ถูกซักถามในหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และต่อมาเสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อกลางปีที่แล้ว นายสากีมัน เบญจเดชา ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ในวันจันทร์นี้

นายสากีมัน เบญจเดชา ทนายความ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปตามนัดของศาลจังหวัดสงขลา ในการไต่สวนการตาย เลขคดี ช.1/2563 โดยญาติและครอบครัว ของนายอีซอมูซอ ได้รอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน ซึ่งฝ่ายภรรยาของนายอีซอมูซอได้ขอร่วมซักถามเพื่อหาสาเหตุด้วย ซึ่งศาลได้อนุญาต แต่อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ยอมให้โอนการไต่สวนไปยังศาลจังหวัดปัตตานี

“ได้ยื่นเรื่องที่นางสาวซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ขอให้ทนายยื่นคำร้องขอเป็นผู้ร้องซักถามในคดีดังกล่าวด้วย โดยมีมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกันให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ซึ่งต่อมา ศาลอนุญาตให้ภริยาเข้าไปเป็นผู้ซักถามด้วย แต่ไม่อนุญาตให้โอนย้ายคดีมาที่ศาลปัตตานี” นายสากีมัน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ทนายความสากีมัน กล่าวอีกว่า การไต่สวนจะมีพยานโจทก์ เจ้าหน้าที่ทหารที่ควบคุมตัวผู้ตาย ตำรวจสืบสวนสอบสวน แพทย์ ฝ่ายจำเลย ภริยาผู้ตาย ญาติ พยานเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะเป็นแพทย์ เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลทางการแพทย์ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง ส่วนการแจ้งความคดีอาญาต่อ สภ.หนองจิกนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทั้งนี้ นายสากีมัน เบญจเดชา กล่าวว่า ศาลได้นัดใหม่อีกครั้งในวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น. เป็นนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานและกำหนดนัดวันเพื่อไต่สวน เพราะในวันนี้ ทีมทนายขอเลื่อนการดูรายละเอียดของคดีไปก่อน เนื่องจากติดว่าความที่ศาลอื่น

“ฉันยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงขอให้ทนายยื่นคำร้องขอเป็นผู้ร้องซักถามในคดีไต่สวนการตายของสามี ที่ศาลจังหวัดสงขลาด้วย ก็รู้สึกดีใจจะได้เข้าไปซักถามด้วยตัวเอง” นางซูไมยะห์ มิงกะ อายุ 31 ปี ภรรยาของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ด้านนายโมฮำมัดรอฮมัด มามุ ลูกพี่ลูกน้องของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ กล่าวว่า ในวันนี้ ตนเองและญาติ ๆ ไม่ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดสงขลาด้วยตนเอง แต่รอฟังข่าวจากทนายความ อยู่ที่บ้าน เพราะว่าในวันนี้ ทนายความตั้งใจจะไปขอเลื่อนนัด และขอโอนการไต่สวนมายังศาลปัตตานี

“ส่วนตัวผมรู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน ส่วนคดี ผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในกระบวนการความยุติธรรมของประเทศไทย ยิ่งในช่วงรัฐบาลทหารด้วย แต่ญาติ ๆ ก็ยังคงต้องตามหาความยุติธรรมตามกระบวนการของศาลต่อไป” นายโมฮำมัดรอฮมัด กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ทั้งนี้ เมื่อเวลาตีสาม ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี หมดสติหลังจากเข้ากระบวนการซักถามยาวนาน 10 ชั่วโมง ณ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยนายอับดุลเลาะ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย หลังจากที่นายอิบรอเฮงระ มะเซ็ง ซึ่งมีหมายจับคดีความมั่นคง 4 หมายจับ ให้การซัดทอดนายอับดุลเลาะว่า ให้การช่วยเหลือสนับสนุนการก่อเหตุ ในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีหลายครั้ง ซึ่ง พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) กล่าวอ้างอิงถึงรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ขณะที่ถูกควบคุมตัวนั้น นายอับดุลเลาะสุขภาพแข็งแรงดี แต่มีอาการเครียดจากการถูกควบคุมตัว และได้รับอนุญาตให้พักภายในศูนย์ฯ

ต่อมา นายอับดุลเลาะ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และโรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี ก่อนส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในอำเภอหาดใหญ่ และเสียชีวิตที่นั่น ในวันที่ 25 สิงหาคม 2562 โดยแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอาการปอดอักเสบ ติดเชื้อ และมีภาวะเป็นพิษจากการติดเชื้อ

หลังเกิดเหตุการณ์ ทางครอบครัวนายอับดุลเลาะ ได้แจ้งความที่ สน.หนองจิก เพื่อเอาผิดทางอาญา หากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำให้นายอับดุลเลาะถึงแก่ชีวิต และยังได้เดินทางไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการยุติธรรม ให้อำนวยความยุติธรรม

ซึ่งในภายหลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ช่วยรวบรวมพยานหลักฐานบางส่วนอีกทางหนึ่ง เพื่อส่งให้พนักงานอัยการจังหวัดสงขลา เป็นผู้ร้องเพื่อขอไต่สวนการชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุการเสียชีวิตในชั้นต้น

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง