ไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่ม 11 ราย

ในวันพฤหัสบดีนี้ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยเพิ่ม 11 ราย เป็นชาวไทยทั้งหมด โดยเหตุสืบเนื่องจาก ผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ร่วมดื่มสุราแก้วเดียวกัน และสูบบุหรี่มวนเดียวกันกับเพื่อนชาวฮ่องกง ซึ่งเมื่อวานนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "การระบาดใหญ่" หรือ pandemic แล้ว

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขว่า ผู้ป่วย 11 รายที่พบการติดเชื้อโควิด-19 เกิดจากการรวมกลุ่มสังสรรค์ใกล้ชิด

“พฤติกรรมก็คือว่า สังสรรค์ใกล้ชิด ดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน อยู่ด้วยกันเป็นเวลานานๆในที่แคบๆ แล้วก็ไม่พักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ดึกดื่น ในกลุ่มนี้ 15 คน ก็พบว่า ผู้ที่ไม่ติดเชื้อ คือ ไม่ดื่มเหล้า แล้วก็ไม่สูบบุหรี่มวนเดียวกันกับเพื่อน โดยสรุป การที่ผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน 11 คนนี้เป็นบทเรียนสำคัญ” นพ.สุขุม กล่าว

“ตอนนี้เราขยายไปที่คนที่มีปอดบวม ที่สำคัญเรามีการขยายการคัดกรอง กลุ่มนี้นี่มีทั้งหมด 15 คนที่ทำกิจกรรมร่วมกัน ก็คือเมื่อประมาณปลายเดือนที่แล้ว มีผู้ที่สงสัยเป็นนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2563 แล้วเขาก็มีการป่วยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะ แล้วก็ไอ ตอนที่ป่วยอยู่นี้ก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนกลุ่มนี้อีก 2 ครั้ง หลังจากนั้นวันที่ 4 มีนาคม ผู้ที่เริ่มสังสรรค์กันก็มีอาการเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล ด้วยระบบทางเดินหายใจ” นพ.สุขุม กล่าวเพิ่มเติม

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 70 ราย

“ตอนนี้ เรามีผู้ป่วยยืนยัน แล้วกลับบ้านได้ 35 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 34 แล้วก็เสียชีวิตไป 1 ราย วันนี้จะมีตัวเลขยืนยันสะสมเป็น 70 ราย จากการที่เรามีการคัดกรองทุกด่าน 5 ล้านกว่าคน ทำให้มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 5,232 ราย ซึ่งมาจากทุกด่าน” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยืนยัน 6 คนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มี 2 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทำงานอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทำงานใกล้ชิดและสัมผัสกับชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

ในวันเดียวกัน พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงข่าวที่ฐานทัพเรือสัตหีบระบุว่า แรงงานไทยจากประเทศเกาหลีใต้ (ผีน้อย) 240 คน ซึ่งถูกควบคุมโรคที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ จะถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนา เพื่อไปควบคุมอาการที่บ้านในวันพรุ่งนี้

“ในการที่เราจะยุติการปฏิบัติในพื้นที่ของอาคารทดลองสัตหีบ จะยุติไปในส่วนของผู้เฝ้าสังเกตอาการที่เดินทางกลับมาจากเกาหลี แต่ว่า ศูนย์ยังคงเตรียมพร้อมอยู่ แต่ไม่มีผู้ใดเข้ามาใช้พื้นที่นี้ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมไว้สำหรับสิ่งที่กระทรวงกลาโหม หรือว่ารัฐบาลจะร้องขอในสิ่งอื่นใดตามมา” พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มแรงงานดังกล่าว 240 คน เป็นชาย 104 คน หญิง 136 คน จะถูกนำส่งยังภูมิลำเนาโดยรถโดยสารที่ราชการจัดไว้ให้ มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปในรถด้วยทุกคัน และจะออกเดินทางในเช้าวันศุกร์นี้ เบื้องต้น แรงงานทั้งหมดนี้ ยังไม่พบอาการติดเชื้อโควิด-19

ในวันเดียวกัน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อยื่นหลักฐานฟ้องร้องเอาผิดกับนายชัยยุทธ คำคูณ โฆษกกรมศุลกากร ข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า นายชัยยุทธ เปิดเผยข้อมูลว่า ประเทศไทยได้ส่งออกหน้ากากอนามัย 330 ตัน มูลค่า 160 ล้านบาท ไปยังต่างประเทศระหว่าง เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งกรมการค้าภายใน ชี้แจงว่า ไทยส่งออกหน้ากากอนามัยแค่บางชนิด และมีการอนุมัติให้ส่งออกมาบางส่วน ระหว่าง วันที่ 17-28 กุมภาพันธ์ 2563 เท่านั้น โดยส่งออกเพียง 12.7 ล้านชิ้น หรือประมาณ 40 ตัน และเดือนมีนาคม ไม่มีการส่งออก เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กรมการค้าภายในได้มีคำสั่งห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัย หลังจากภายในประเทศมีความต้องการใช้หน้ากากสูง

ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยว่า น.ท.สุธีวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของบริษัท โดยหนังสือลาออกขอให้มีผลบังคับ16 เมษายน 2563 โดยระบุเหตุผลการลาออกว่า เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่บริหารจัดการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) ไม่ดีจนมีกรณีผีน้อยหลุดออกไปจากการคัดกรอง ในวันเดียวกัน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ยื่นใบลาออกเช่นกัน แต่ยังไม่ได้มีการระบุเหตุผลของการลาออก

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย ปรับตัวลดลงจาก 1586.16 จุด ในวันที่มีข่าวพบผู้ป่วยรายแรกในไทย เมื่อวันที่ 13 มกราคม มาปิดอยู่ที่ 1,114.91 จุด ในวันที่ 12 มีนาคม 2563 นี้ โดยเฉพาะวันนี้ ตลาดหุ้นติดลบถึง 134.98 จุด โดยปัจจุบัน ถือเป็นจุดต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี ของตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย

ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 127,750 คน มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 110 ประเทศ มีผู้เสียชีวิต 4,717 คน รักษาหายแล้ว 68,307 คน ประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ จีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ตามลำดับ

เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 วานนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแก่สื่อมวลชนหลังการประชุมด่วน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรีมีมติ ยกเลิกฟรีวีซ่าของฮ่องกง เกาหลีใต้ และอิตาลี และยกเลิกวีซ่าประเภท Visa on Arrival 18 ประเทศ ประกอบด้วย 1. บัลแกเรีย 2. ภูฏาน 3. จีน 4. ไซปรัส 5.  เอธิโอเปีย 6. หมู่เกาะฟิจิ 7. จอร์เจีย 8. อินเดีย 9. คาซัคสถาน 10. มอลตา 11. เม็กซิโก 12. นาอูรู 13. ปาปัวนิวกินี 14. โรมาเนีย 15. รัสเซีย 16. ซาอุดิอาระเบีย 17. อุซเบกิสถาน 18. วานูอูตู และ ไต้หวัน (เขตเศรษฐกิจ) โดยจะมีการพิจารณาใหม่ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายไปแล้ว